⚠️ ข้อควรระวัง
AvaTrade ยังคงเป็นโบรกเกอร์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ XTB สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับผู้ค้าปลีก xStation 5 นั้นใช้งานง่ายกว่าและให้คุณซื้อหุ้นได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น
สรุปภาพรวม – AvaTrade ดีไหม
สรุป AvaTrade
| 💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $100 (~฿3,100) |
| 📈 เลเวอเรจสูงสุด | 1:400 |
| 🖥️ เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม | MT4, AvaOption, Go |
| 🏦 หน่วยงานกำกับดูแล | ASIC, FSCA, FSA |
| 💳 การฝากและการถอนเงิน | Neteller, Skrill, Visa และ Mastercard |
AvaTrade เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ รวมถึงเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้บริการโซเชียลเทรดดิ้ง
AvaTrade ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยใช้ชื่อว่า AvaFX เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์และ CFD มีสำนักงานกระจายใน 11 ประเทศ โบรกเกอร์ได้รับรางวัลต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น Best Forex Broker Ireland เมื่อปี 2021 โดย Finance Derivative Awards ส่วนหน่วยงานที่ควบคุมดูแล AvaTrade ได้แก่ ASIC, FSA, FSCA และ BVIFSC
โบรกเกอร์ AvaTrade ให้บริการออนไลน์เทรดดิ้งในรูปแบบ CFD ที่หลากหลาย ลูกค้าสามารถเข้าเทรดได้ในหลาย ๆ ตลาดการเงิน ได้แก่ ฟอเร็กซ์, ดัชนี CFD, หุ้น, ETF, สกุลเงินดิจิทัล, สินค้าโภคภัณฑ์และออปชั่น ค่าธรรมเนียมการเทรดกับ AvaTrade นั้นไม่สูง แต่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานด้วย ส่วนเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ให้บริการมีทั้ง MT4, MT5 นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองในเวอร์ชันเว็บเทรดเดอร์, AvaOption สำหรับเทรดฟอเร็กซ์ และแอพพลิเคชั่นมือถือ AvaTradeGo
เราได้ทำการทดสอบพบว่า แม้ AvaTrade จะมีเครื่องมือค้นคว้าช่วยสนับสนุนเทรเดอร์ที่ดี แต่โบรกเกอร์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรด เราจึงแนะนำให้คุณเปลี่ยนมาเทรดกับทาง XTB ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย และอนุญาตให้เทรดเศษหุ้น หรือ Fractional Shares ได้ เข้าดู XTB เลย
การเปิดบัญชี
สามารถเปิดบัญชีได้ง่ายและยังมีโบนัสให้ด้วย
การเปิดบัญชีกับทาง AvaTrade นั้นสามารถทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว เริ่มจากการคลิกที่ “สร้างบัญชี” จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ จากนั้นดูในแบบฟอร์มเปิดบัญชีและให้คุณกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณลงไป จากนั้นทางแพลตฟอร์มก็จะขอให้คุณทำการยืนยันตัวตนของคุณ
ขั้นตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “Know your customer” หรือ KYC ทางสถาบันการเงินทุกแห่งจะต้องทำการยืนยันตัวตนของลูกค้าซึ่งสิ่งนี้ช่วยปกป้องความปลอดภัยให้แก่ระบบทางการเงินรวมถึงการฟอกเงินด้วย ดังนั้นแล้วคุณไม่ต้องกังวลสำหรับการส่งเอกสารข้อมูลนี้เลย
ในการตรวจสอบบัญชีนี้ คุณจะต้องส่งตัวสแกนบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของคุณรวมทั้งหลักฐานของที่อยู่อาศัย เช่น ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคหรือหลักฐานถิ่นที่อยู่ ข้อมูลในเอกสารของคุณจะต้องตรงกับที่ข้อมูลที่คุณป้อนลงในระบบ และอย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องก่อนยืนยัน การส่งข้อมูล หลังจากที่ทางโบรกเกอร์ตรวจสอบข้อมูลแล้วคุณก็สามารถฝากเงินบนแพลตฟอร์มของ AvaTrade ได้เลย
โปรดแจ้งไว้ว่าคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนสกุลเงินหลักในบัญชีซื้อขายของคุณได้ ดังนั้นคุณต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่ตอนที่คุณทำการตั้งค่าในบัญชี แต่คุณก็ยังสามารถเพิ่มบัญชีใหม่ได้โดยใช้สกุลเงินต่างกันและยังสามารถโอนเงินไปมาให้กันได้ สกุลเงินหลักที่ใช้ได้คือ EUR, USD, GBP และ AUD
AvaTrade มีโบนัสต้อนรับให้กับลูกค้า โดยการที่จะได้รับโบนัสนี้ต้องมีการฝากขั้นต่ำไม่เกิน $1,000(~฿31,000) โบนัสจะอยู่ในรูปแบบของเงินทุนที่จะถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีของคุณ นอกเหนือจากการฝากเงินครั้งแรกแล้วโบนัสนี้จะเพิ่มมาร์จิ้นของคุณได้เป็นอย่างมากเลย หากคุณต้องการโบนัสที่ว่านี้ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ AvaTrade เพื่อตรวจสอบดูว่าคุณมีสิทธิ์หรือไม่
อย่างไรก็ตามก็จะมีเงื่อนไขสำหรับโบนัสที่ว่านี้ ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้อาจจะแตกต่างกันไป และคุณจะต้องแน่ใจว่าคุณได้ทำการเทรดบนแพลตฟอร์มตามปริมาณที่กำหนดโดยโบรกเกคไว้แล้วถึงจะสามารถถอนโบนัสนี้ออกไปได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่แนะนำโบนัสใดๆ ก็ตามที่เสนอจากทางโบรกเกอร์นี้
ประเภทบัญชี
AvaTrade มีบัญชี 3 ประเภทเป็นหลัก ได้แก่ บัญชีมาตรฐาน, บัญชี Pro และบัญชีทดลอง
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่สามารถใช้งานบัญชีมาตรฐานได้ โดยในบัญชีประเภทนี้จะมีเลเวอเรจสูงสุดอยจที่ 1:400 และอยากกล่าวเพิ่มเติมในส่วนนี้ว่าทางโบรกเกอร์นี้ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานของยุโรปด้วยเนื่องจากไม่ได้มีการตรวจสอบในประเทศ จึงทำให้เงื่อนไขในการเทรดบางอย่างระหว่างเทรดเดอร์ชาวไทยและชาวต่างชาตินั้นมีความแตกต่างกัน
ข้อได้เปรียบหลักของบัญชีมาตรฐานคือเรื่องของการปกป้องเงินทุนของคุณจากการเกิดยอดคงเหลือติดลบ หากคุณทำการเทรดด้วยมาร์จิ้นของคุณ มันอาจจะส่งผลให้เงินทุนของคุณลดลงต่ำกว่าศูนย์ก็ได้ ทาง AvaTrade เองจึงได้ลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วยการนำเสนอบัญชีประเภทนี้ขึ้นมา
เทรดเดอร์ผู้ที่ใช้บัญชี Pro จะได้รับประโยชน์จากการใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:400 แต่อย่างไรก็ตามการใช้บัญชีประเภทนี้ คุณก็จำเป็นต้องเข้าเงื่อนไขที่ว่าคุณจะต้องเป็นผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่ต้องการบริหารเงินทุนจำนวนมาก
บัญชีทดลองของ AvaTrade จะช่วยให้คุณสามารถทดสอบแพลตฟอร์มต่างๆ ของโบรกเกอร์ได้ AvaTrade มีแพลตฟอร์มที่เป็นของตัวเอง ดังนั้นคุณจึงควรเริ่มต้นด้วยการลองใช้งานเพื่อให้รู้และเข้าใจเครื่องมือต่างๆ ตลาดที่คุณเทรดในบัญชีทดลองนี้จะเป็นเหมือนในตลาดของบัญชีมาตรฐาน คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์ของคุณแบบเรียลไทม์บน AvaTrade ได้เลย
การฝากและการถอนเงิน
AvaTrade มีหลายช่องทางในการฝากเงิน เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์, การชำระเงินด้วยบัตรและการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น PayPal, Skrill, Neteller และ WebMoney
ช่องทางการฝากถอนเงินที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไทยก็คือทำผ่าน Internet Banking ผ่านธนาคารไทย โดยมีธนาคารให้เลือกฝากถอนเงิน ดังนี้
- ธนาคารกรุงศรี
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารทหารไทย
- ธนาคาร CIMB THAI
- ธนาคารเกียรตินาคิน
การฝากเงินผ่านบัตรนั้นจะช่วยให้คุณสามารถฝากเงินได้เร็วขึ้น เพราะ เงินของคุณจะถูกโอนเข้ามาในบัญชีเทรดของคุณทันทีหลังจากที่คุณทำธุรกรรมการโอนเสร็จ แต่ในการฝากเงินครั้งแรกนั้นอาจจะใช้เวลาสักครู่ในการตรวจสอบ สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารคุณจะต้องรอถึง 3 วันทำการก่อนกว่าที่เงินจะเข้ามาในบัญชีเทรดของคุณ
สำหรับการถอนเงิน คุณสามารถสมัครใช้บริการผ่านการโอนเงินผ่านธนาคารได้ตลอดเวลาโดยแจ้งรายละเอียดธนาคารของคุณบนแพลตฟอร์ม และในการถอนนี้ คุณจะไม่สามารถถอนได้มากกว่าเงินฝากตั้งต้นของคุณ หากจำนวนเงินที่ถอนเกินกว่าเงินฝากตั้งต้น ส่วนต่างนี้จะถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารของคุณ
สมมติว่าคุณฝากเงิน $100 ผ่านบัตรเครดิต และหลังจากที่คุณได้ทำเทรดไปบ้างแล้วจนทำให้คุณสามารถบริหารเงินทุนของคุณจนได้เป็นสองเท่าจากเงินตั้งต้น จากนั้นคุณต้องการถอนเงินออกมา $200 ในกรณีเช่นนี้ เงินเริ่มต้น $100 ของคุณจะถูกคืนกลับไปที่บัตรของคุณและเงินที่คุณหาได้เพิ่มมาจะถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารของคุณ
ค่าธรรมเนียมการเทรด
ค่าธรรมเนียมการเทรดที่ AvaTrade นั้นไม่แพง แต่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานด้วย
โดยปกติแล้ว AvaTrade จะไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น โดยจะเรียกเก็บจากค่าสเปรดเท่านั้น ค่าสเปรดโดยเฉลี่ยสำหรับ EUR/USD จะอยู่ที่ 1.3 pip นี่เป็นข้อได้เปรียบที่คุณจะได้จากโบรกเกอร์นี้ที่จ่ายเฉพาะค่าสเปรดเท่านั้น และค่าสเปรดยังถูกกว่าโบรกเกอร์บางรายที่ค่าสเปรดนี้สูงไปถึง 2 pip หรือมากกว่านี้
ค่าสเปรดจะแสดงเป็น pip หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ เราได้สรุปค่าสเปรดของบางสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมในตารางด้านล่างนี้
| สินทรัพย์ | ค่าสเปรด on pips | ค่าสเปรด in % |
| EUR/USD | 1.3 | ไม่มี |
| Apple | ไม่มี | 0.13 |
| Or | 0.4 | ไม่มี |
| Bitcoin | ไม่มี | 0.75 |
AvaTrade จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม $50(~฿1,600) หากคุณไม่ใช้งานบัญชีของคุณเป็นระยะเวลาถึง 3 เดือน และยังมีค่าธรรมเนียมการถือครองจำนวน $100(~฿3,100) ซึ่งจะถูกหักออกจากบัญชีของคุณหลังจากที่ไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 12 เดือน ค่าใช่จ่ายการไม่ใช้งานของทาง AvaTrade นี้ถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียว คุณควรจะถอนเงินออกมาจากบัญชีก่อนหากคุณคิดว่าจะหยุดเทรดไปสักช่วงหนึ่ง
ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมข้ามคืนหรือค่าธรรมเนียมโรลโอเวอร์
เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม
นอกจาก Metatrader แล้ว AvaTrade ยังมีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองด้วย
ในการจะหาประโยชน์จากตลาดทางการเงินนี้ คุณก็จะต้องมีแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดซื้อขาย โดยทาง AvaTrade มีแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มในการวิเคราะห์ตลาดและพัฒนากลยุทธ์การเทรดของคุณ ทางโบรกเกอร์มีบริการทั้ง Metatrader 4 ตลอดจน AvaOption และ AvaTradeGo ที่เป็นแพลตฟอร์มของทางโบรกเกอร์เอง
Metatrader 4
Metatrader 4 เป็นแพลตฟอร์มธรรมดาแต่สามารถใช้งานได้ง่าย และมันได้รวมฟีเจอร์ทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อช่วยให้คุณสามารถประสบความสำเร็จในการเทรดได้ Metatrader นี้เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพเลย นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นแพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมากที่สุด
คุณสามารถใช้ Metatrader 4 ในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคได้ ด้วยเนื่องจากมีตัวอินดิเคเตอร์มากมายอยู่ในแพลตฟอร์มืนอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มตัวอินดิเคเตอร์ใหม่ๆ หรือตั้งค่าโปรแกรมได้อย่างง่ายๆ เลย และบน MT4 ยังมีส่วนที่ไว้ใช้เฉพาะสำหรับการเขียนโปรแกรมและภาษาโปรแกรมที่เรียกว่า MQL4 บนแพลตฟอร์มนี้ยังอนุญาตให้เพิ่ม Expert advisors เข้าไปได้เป็นปลั๊กอินด้วย โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถทำการเทรดโดยอัตโนมัติได้
AvaOption
AvaOption เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นของ AvaTrade เองสำหรับการซื้อขายออปชั่นโดยเฉพาะ มันเป็นแพลตฟอร์มที่ถือว่ามีประสิทธิภาพมากสำหรับการซื้อขายออปชั่น แพลตฟอร์มนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับคู่สกุลเงิน Forex อย่างมากมายและมีเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงขั้นสูงเพื่อช่วยป้องกันเงินทุนของลูกค้าด้วย
AvaOption ยังมีกราฟที่ช่วยทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วย แต่ว่าแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างจะมีความซับซ้อนมากกว่า Metatrader 4 แต่คุณสามารถลองใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบฟีเจอร์ต่างๆ ได้โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย
AvaTradeGo
นอกเหนือจากการมี Metatrader 4 ในเวอร์ชันบนมือถือแล้ว AvaTrade ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชันของตัวเองที่เรียกว่า AvaTradeGo ด้วยโดยมีให้บริการทั้งบนระบบ Android และ iOS นี่ถือเป็นแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ AvaTradeGo ยังมีชาร์ทขนาดเล็กที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามความผันผวนต่างๆ ของสินทรัพย์ที่คุณสนใจได้ในขณะที่คุณเดินทางอยู่ แพลตฟอร์มนี้บนมือถือยังสามารถสร้างรายการทรัพย์สินที่คุณได้เลือกไว้ล่วงหน้าแล้วและคุณสามารถเข้าดูข้อมูลที่คุณต้องการได้เร็วขึ้นด้วย
ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ
มี CFD มากมายซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกประเภท
คุณสามารถซื้อขาย Forex, ดัชนี CFD, หุ้น, ETF, สกุลเงินดิจิทัล, สินค้าโภคภัณฑ์และออปชั่นได้ สำหรับออปชั่นนี้จะเป็นประเภท Vanilla โดยถือเป็นตราสารอนุพันธ์ที่ให้สิทธิ์ในการขายหรือซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าภายในกรอบเวลาที่กำหนด Vanilla ออปชั่นนี้นั้นใช้งานได้ง่ายมากกว่าออปชั่นของอเมริกาหรือออปชั่นที่แปลกๆ อื่นๆ ที่จะต้องมีการตั้งค่าอย่างอื่นเพิ่มเติมเหนือจากการซื้อหรือขาย
ออปชั่นบน AvaTrade นี้มีทั้ง Forex, ทองและเงินเป็นหลัก และด้วยการที่มี AvaOption จะทำให้คุณสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดสำหรับออปชั่นได้ด้วย เช่น การป้องกันความเสี่ยง(Hedging), Straddle หรือ Strangle
เมื่อพูดถึงการซื้อขาย CFD คุณจะพบว่าตลาดต่างๆ ต่อไปนี้บน AvaTrade:
- ดัชนี: SP500, Nasdaq, Russel หรือดอลลาร์อินเด็กซ์
- สินค้าโภคภัณฑ์: น้ำมันl, ก๊าซ, ทองคำ, เงิน, แพลตินัมและสินค้าทางการเกษตร
- หุ้น: คุณสามารถเทรดหุ้นจากทั่วโลกได้ในรูปแบบของ CFD
- ETFs: ETF บางตัวก็อยู่ในรูปแบบของ CFD
- สกุลเงินดิจิตอล: หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสกุลเงินดิจิตอลแล้ว คุณจะพบว่าบนแพลตฟอร์มนี้มีสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เช่น Bitcoin, Ripple, Ether, Dash หรือ Litecoin
การค้นคว้า
หน้าแดชบอร์ดมีพร้อมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์และค้นคว้ามากมาย
AvaTrade เป็นแพลตฟอร์มที่อุดมด้วยเนื้อหาความรู้มากมาย คุณจะพบว่ามีเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์มากมาย เช่น ปฏิทินทางเศรษฐกิจหรือ Autochartist โดย Autochartist นี้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบอัตโนมัติที่สามารถใช้งานร่วมกันกับ Metatrader 4 ได้ อีกทั้ง Autochartist จะช่วยคุณทำการวิเคราะห์ตลาดและหาโอกาสในการเข้าซื้อขายที่ดีที่สุดให้
หากคุณชอบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทาง AvaTrade ก็มีเครื่องมืออื่นที่เรียกว่า Sharp Trader ซึ่งมันฟีดข่าวการตลาดแบบรายวันที่จะถูกอัปเดตโดยทีมนักวิเคราะห์ของ AvaTrade
ฝ่ายบริการดูแลลูกค้า
นอกเหนือจากที่หน้าเว็บไซต์ของทางโบรกเกอร์จะรองรับภาษาไทยแล้ว ยังมีฝ่ายบริการลูกค้าที่ดี พร้อมทั้งฝ่ายช่วยเหลือทางโทรศัพท์ที่รองรับไทยและภาษาอื่นๆ ถึง 15 ภาษาด้วย
ฝ่ายบริการดูแลลูกค้านั้นเปิดบริการ 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ การสื่อสารทางอีเมลอาจจะมีความล่าช้า ทางโบรกเกอร์เองได้ให้เบอร์โทรศัพท์ท้องถิ่นของทุกประเทศไว้ โดยเบอร์โทรติดต่อในประเทศไทยคือ +66 86485067
AvaTrade พยายามสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าหรือผู้ที่อาจจะมาเป็นลูกค้า ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นมาทางโบรกเกอร์ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าจากทั่วทุกประเทศโดยการเพิ่มภาษาใหม่ๆ เข้ามา AvaTrade ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ไม่กี่แห่งที่ให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารทางโทรศัพท์โดยใช้ภาษาท้องถิ่นในประเทศที่พวกเขาไม่มีสำนักงาน
คุณสามารถติดต่อได้ทางแชทออนไลน์หรืออีเมล คุณสามารถค้นหาคำตอบในข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มของ AvaTrade หรือข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับบริการผ่านช่องทางแชทออนไลน์ได้ และฝ่ายบริการยังช่วยส่งลิงก์ให้คุณเพื่อไปข้อมูลเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ด้วย
การฝึกฝน
มีวิดีโอสอนเทรดแบบออนไลน์ฟรีกว่า 56 วิดีโอ แต่วิดีโอเหล่านี้จะไม่รองรับภาษาไทย
AvaTrade ให้บริการการฝึกสอนฟรีบนเว็บไซต์ ซึ่งเนื้อหานี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแง่มุมพื้นฐานทั้งหมดของตลาดการเงินและการซื้อขายทางออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเวอร์ชั่นของบทความที่เป็นภาษาไทยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอ่าน และยังมีแหล่งความรู้ที่รวบรวมไว้ในฟอร์มเอกสารแบบ PDF ให้คุณด้วย เพียงแค่คุณให้อีเมลไว้กับทางโบรกเกอร์เท่านั้นเอง
ความปลอดภัย
ทางโบรกเกอร์ได้ใช้เครื่องมือที่มีความล้ำสมัยในการช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินธุรกรรมของคุณด้วย
AvaTrade ได้ลงทะเบียนไว้กับทางหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั่วโลก และยังได้รับใบอนุญาตจากประเทศไอร์แลนด์โดย Irish Central Bank ดังนั้นนี่จึงเป็นแตกต่างของ AvaTrade กับโบรกเกอร์หลายแห่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดย CySec ในไซปรัสเท่านั้น
นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังได้รับใบอนุญาตจาก Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมสาขาในประเทศออสเตรเลีย
AvaTrade ยังมีสำนักงานในญี่ปุ่นซึ่งอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของ Financial Services Agency (FSA) และ Financial Futures Association of Japan (FFAJ)
และมีสาขาอยู่ในแอฟริกาใต้ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ South African Financial Sector Conduct Authority (FSCA)
สาขาระหว่างประเทศของ AvaTrade อยู่ภายใต้การควบคุมของ British Virgin Islands Financial Services Commission ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินด้วย
และในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มนี้ ทางโบรกเกอร์ได้ใช้ McAfee Secure technology ซึ่งช่วยในการปกป้องเงินทุนของลูกค้า อีกทั้งเงินของลูกค้านั้นจะถูกแยกออกจากเงินบัญชีของโบรกเกอร์ด้วยซึ่งนี้เป็นความช่วยเหลือจากธนาคารพันธมิตรต่างๆ ทั่วโลกของโบรกเกอร์
สรุป – Avatrade รีวิว
เราคิดว่าโบรกเกอร์รายนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี เนื่องจากเมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ทางโบรกเกอร์รายนี้สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการเทรดซื้อขายได้ เพราะมีกฎระเบียบต่างๆ มากมายในทั่วทุกทวีป อีกทั้งยังมีการแยกบัญชีและการใช้เครื่องมือเข้าใช้งานล่าสุดเพื่อทำให้ลูกค้าแน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถทำธุรกรรมต่างๆ บนแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบาย
สินทรัพย์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้ถือว่ามีความหลากหลายมาก เพราะไม่ได้มีเพียงแค่ตราสารที่มีความซับซ้อนอย่างออปชั่นเท่านั้น แต่ยังมีสินทรัพย์ธรรมดาอย่าง CFD ของหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัลด้วย ฝ่ายบริการลูกค้ายังให้บริการเป็นภาษาไทยด้วยและพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกค้าเสมอ
คำถามที่พบบ่อย
AvaTrade อยู่ภายใต้การควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางแห่งของไอร์แลนด์และ ASIC ในประเทศออสเตรเลียด้วย
AvaTrade ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ FCA
AvaTrade รับการฝากเงินโดยบัตรเครดิต
เงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่ $100(~฿3,100)
AvaTrade อยู่ในตลาดนี้มาตั้งแต่ปี 2006 โดยมีสำนักงานอยู่ใน 11 ประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินมากมาย ดังนั้นแล้ว AvaTrade ถือเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ
