Forex เล่นยังไง ? รวมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มต้นเทรด

May 6, 2022

การเทรด Forex เป็นอีกรูปแบบการลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุมีสภาพคล่องสูง เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสามารถเทรดออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ในแต่ละวันมีมูลค่าการเทรด Forex โดยเฉลี่ยสูงถึง $6.6 ล้านล้าน (~฿212 ล้านล้าน) และยังคงดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเอยู่เสมอ 

สำหรับนักลงทุนที่จะต้องการเริ่มต้นเทรด Forex บทความนี้เราจะมาเจาะลึกข้อมูลที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex ตั้งแต่ความรู้เบื้องต้น เช่น การเทรด Forex คืออะไร ไปจนถึงรู้จักกับกราฟ Forex เป็นต้น และอีกส่วนคือวิธีการเทรด Forex โดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ เราไปดูกันเลย 

การเทรด Forex คืออะไร?

การเทรด Forex (Foreign Exchange หรือ FX) คือ การเก็งกำไรในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่าง 2 สกุลเงิน เรียกว่า “คู่สกุลเงิน” โดยไม่สามารถเลือกซื้อสกุลเงินใดสกุลหนึ่งได้ ซึ่งแต่ละคู่สกุลเงินจะประกอบด้วย “สกุลเงินตั้งต้น (Base currency)” หมายถึงสกุลเงินลำดับแรกในคู่ Forex และ “สกุลเงินอ้างอิง”(Quote currency)” เป็นสกุลเงินอันดับสอง 

การเทรด Forex คืออะไร EUR (Euro) vs. USD (US Dollar)

ส่วนราคาของคู่สกุลเงินจะแสดงจำนวนเงินของสกุลเงินอ้างอิงที่ต้องใช้เพื่อซื้อสกุลเงินตั้งต้นหนึ่งหน่วย

ตัวอย่าง หากคุณต้องการเทรดสกุล EUR (ยูโร) กับ USD (ดอลลาร์สหรัฐ) ให้คุณเลือกเทรดคู่ “EUR/USD” นั่นคือ EUR เป็นสกุลเงินตั้งต้น และ USD เป็นสกุลเงินอ้างอิง ถ้าราคาคู่สกุลเงิน EUR/USD เท่ากับ 1.2 หมายความว่าสกุล EUR นั้นมีมูลค่า $1.2 (~฿39) 

คู่สกุลเงินที่นิยมเทรด 

แม้ว่าจะมีสกุลเงินมากมายบนโลก แต่มีไม่กี่สกุลเงินเท่านั้นที่นิยมซื้อขายกัน ซึ่งได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ดอลลาร์แคนาดา (CAD), เยน ญี่ปุ่น (JPY), ปอนด์ อังกฤษ (GBP), ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD), ฟรังก์สวิส (CHF) และหยวน จีน (CNY) 

คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมในตลาด Forex จะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพในประเทศ นอกจากนี้ยังมีค่าสเปรดที่แคบกว่าคู่เงินอื่นๆ ด้วย สำหรับคู่สกุลเงินที่ถูกซื้อขายมากที่สุดมีดังนี้ 

คู่สกุลเงินที่นิยมเทรด คู่สกุลเงินที่นิยมเทรด
USD/CAD EUR/JPY
EUR/USD EUR/CHF
USD/CHF EUR/GBP
GBP/USD AUD/CAD
NZD/USD GBP/CHF
AUD/USD GBP/JPY
USD/JPY CHF/JPY
EUR/CAD AUD/JPY
EUR/AUD AUD/NZD

ส่วนคู่สกุลเงินอื่นๆ จะถูกซื้อขายน้อยกว่าและมีสภาพคล่องต่ำ ค่าสเปรดค่อนข้างกว้าง และราคามีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจด้วย

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาสกุลเงิน

ราคาของสกุลเงินนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกสกุลเงินที่จะซื้อขายของเทรดเดอร์ด้วย สำหรับบทความนี้เราได้สรุปออกมาเป็น 5 ปัจจัยหลักต่อไปนี้ 

การเทรด Forex คืออะไร คู่สกุลเงิน

1. สภาวะเศรษฐกิจ 

สถานะทางการเงินของประเทศส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินอย่างมาก และราคามักจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ โดยข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เหล่านี้จะแสดงถึงสุขภาพการเงินของแต่ละประเทศ และถูกนำมาใช้ในการเปรียบเทียบระหว่างประเทศหนึ่งกับประเทศอื่นๆ 

2. ข่าวการเมืองและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ 

เหตุการณ์การเมืองต่างๆ เช่น การเลือกตั้ง ล้วนส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ รวมไปถึงมูลค่าของสกุลเงินด้วย ดังนั้นนักเทรด Forex จึงต้องติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่องเพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในระดับประเทศ 

3. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตในประเทศ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง หรือสามารถกล่าวได้ว่า GDP สามารถใช้ประเมินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศได้ นี่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องตรวจสอบก่อนซื้อขายคู่สกุลเงินใดๆ 

4. อัตราดอกเบี้ย 

อัตราดอกเบี้ยอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดที่มีผลต่อตลาด Forex การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยสามารถกำหนดผลลัพธ์ของการซื้อขายได้ สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงจะมีโอกาสถูกซื้อขายในตลาดมากขึ้น 

5. ราคาสินค้า 

ราคาของสินค้าส่งผลกระทบต่อราคาของบางสกุลเงินในลักษณะที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นสามารถส่งผลเสียต่อสกุลเงิน USD และ JPY ได้ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลดีต่อประเทศที่ผลิตน้ำมันได้ด้วยตนเอง 

ตลาด Forex

ตลาด Forex คือตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสกุลเงินแทบจะทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงเงินบาทไทย (BTH) นอกจากนี้ยังทำงานผ่านระบบออนไลน์และเชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยจะเปิดทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) เวลาเปิด-ปิดของตลาดสกุลเงินใหญ่ๆ ตามเวลาในประเทศไทยมีดังนี้ 

  • ตลาดออสเตรเลีย เวลาเปิด 05.00 น. เวลาปิด 13.00 น.
  • ตลาดญี่ปุ่น เวลาเปิด 06.00 น. เวลาปิด 14.00 น.
  • ตลาดยุโรป เวลาเปิด 14.00 น. เวลาปิด 23.00 น.
  • ตลาดลอนดอน เวลาเปิด 15.00 น. เวลาปิด 23.00 น.
  • ตลาดอเมริกา เวลาเปิด 19.00 น. เวลาปิด 03.00 น

ทำความเข้าใจกับกราฟ Forex

การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จทักษะหนึ่งที่สำคัญคือการอ่านกราฟ Forex เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์เห็นมุมมองของตลาดได้ชัดเจน สามารถจับสัญญาณเทรดและจับตาความเคลื่อนไหวต่างๆ ในตลาดได้ ซึ่งกราฟ Forex แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ กราฟแท่งเทียน กราฟแท่ง และกราฟเส้น 

กราฟแท่งเทียน

กราฟแท่งเทียน หรืออีกชื่อคือกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น เป็นกราฟที่แสดงช่วงข้อมูลหลากหลาย ทั้งราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาเปิดและราคาปิด ช่วยให้เทรดเดอร์สังเกตความเคลื่อนไหวของราคาได้ชัดเจน กราฟแท่งเทียนจึงเป็นนิยมใช้กันมากที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ 

การเทรด Forex คืออะไร กราฟแท่งเทียน

กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยกล่องเรียกว่า “ตัวเทียน (Body)” ซึ่งจะอยู่ระหว่างราคาเปิดและราคาปิด และ “ไส้เทียน (Shadow)” เป็นเส้นบางๆ ด้านบนและด้านล่างตัวเทียน แสดงช่วงของราคาสูงสุดถึงต่ำสุด

กราฟแท่ง

กราฟแท่งแสดงลำดับราคาในช่วงเวลาต่างๆ มีข้อมูลทั้งราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดของคู่สกุลเงิน ดังนั้นกราฟแท่งมักจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุการย่อตัวและการขยายตัวของช่วงราคา 

การเทรด Forex คืออะไร กราฟแท่ง

ด้านบนของแท่งคือราคาสูงสุด ส่วนด้านล่างคือราคาต่ำสุดในช่วงระยะเวลานั้นๆ ขีดเล็กๆ ด้านซ้ายจะบอกราคาเปิด และขีดด้านขวาจะบอกราคาปิด 

กราฟเส้น

กราฟเส้นจะลากเชื่อมต่อกันระหว่างราคาปิดจากราคาหนึ่งไปอีกราคาหนึ่งในช่วงระยะเวลาที่กำหนด กราฟประเภทนี้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเทรด Forex นอกจากนี้ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจับทิศทางของเทรนด์ได้ด้วย

การเทรด Forex คืออะไร กราฟเส้น ตัวอย่าง

หลังจากที่เรารู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเทรด Forex แล้ว ส่วนต่อไปเราจะมาลงลึกกันว่าถ้าอยากเริ่มต้นเทรด Forex ควรจะทำยังไงบ้าง? 

เทรด Forex ยังไง? 

ในส่วนนี้เราจะแบ่งวิธีการเทรด Forex ออกเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ ตั้งเป้าหมายการเทรด, เลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรด, เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดและแพลตฟอร์มการเทรด, เทรด Forex ด้วย Leverage และ Margin และสุดท้ายคือเปิดสถานะซื้อ-ขายและติดตามสถานะ เรามาดูรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนกันเลย 

การเทรด Forex คืออะไร คู่สกุลเงินเพื่อการค้า

1. ตั้งเป้าหมายการเทรด 

การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จนั้นเริ่มต้นจากวิธีคิดที่ถูกต้อง และการตั้งเป้าหมายหลายๆ ด้านนอกเหนือจากกำหนดกำไรเพียงอย่างเดียว คุณสามารถเริ่มต้นตั้งเป้าหมายการเทรดโดยใช้ “SWOT Analysis” ซึ่งเป็นเครื่องมื้อหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์ตัวคุณทั้งภายนอกและภายใน SWOT Analysis ประกอบด้วย 

  • Strengths (จุดแข็ง) 
  • Weakness (จุดอ่อน) 
  • Opportunities (โอกาส)
  • Threats (อุปสรรค) 

นอกจากนี้การค้นคว้าและวิเคราะห์การเทรดยังเป็นอีกพื้นฐานหนึ่งที่สำคัญ รวมไปถึงทำบันทึกการเทรด เช่น กลยุทธ์ที่ใช้, กำไร-ขาดทุน, ปัญหาที่เจอในการเทรด เป็นต้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะช่วยสร้างวินัยที่ดีให้กับเทรดเดอร์ 

2. เลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรด 

การเทรด Forex คือการแลกเปลี่ยนมูลค่าระหว่างสองสกุลเงิน หรือสามารถกล่าวได้ว่า คุณต้องซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน เทรดเดอร์ควรเลือกคู่สกุลเงินโดยพิจารณาจากหลายปัจจัยจากข้อมูลข้างต้น เช่น สภาวะเศรษฐกิจ การเมือง อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ราคาสินค้า เป็นต้น สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คุณสามารถเริ่มต้นเทรดคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมสูงก่อน 

นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์อื่นๆ ได้แก่ เวลาในการเทรด เพราะแต่ละคู่สกุลเงินมีปริมาณการเทรดแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เช่น USD/JPY, AUD/USD และ NZD/USD จะมีปริมาณการเทรดสูงในช่วงเช้าของเอเชีย อีกเกณฑ์หนึ่งคือค่าสเปรดและค่าธรรมเนียมอื่นๆ เนื่องจากแต่ละสกุลเงินมีค่าสเปรดที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อกำไรในการเทรดด้วย 

3. เลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มการเทรด 

โบรกเกอร์จะทำหน้าที่ตั้งแต่ส่งคําสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เข้าสู่ตลาด รับผิดชอบขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ อย่างการเปิดบัญชี ดูแลให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาให้ลูกค้า ไปจนถึงการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ คำถามคือ ควรเทรด Forex โบรกไหนดี? เราได้สรุปหลักการเลือก 6 ข้อดังนี้ 

1. ความน่าเชื่อถือ ศึกษาประวัติความเป็นมา ชื่อเสียงของทีมบริหาร ตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการ ดูว่าโบรกเกอร์นั้นได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานอะไร รวมถึงรางวัลที่ได้รับ

2. ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ศึกษารายละเอียดว่าโบรกเกอร์ให้บริการสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง  

3. ฝ่ายบริการลูกค้าเป็นมืออาชีพ สามารถช่วยเหลือคุณได้เมื่อมีปัญหาหรือข้อสงสัย และมีจำนวนพนักงานเพียงพอต่อจำนวนลูกค้า

4. สนับสนุนแหล่งความรู้ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีแหล่งการเรียนรู้สนับสนุน เช่น บทความ วิดีโอสอน คอร์สเรียน และสัมมนาต่าง ๆ สำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพ นอกจากนี้โบรกเกอร์ควรมีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์การเทรดของคุณด้วย  

5. ค่าธรรมเนียมการเทรด ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเทรดและไม่เกี่ยวกับการเทรดมีผลกับกำไร-ขาดทุนของคุณ ดังนั้นโบรกเกอร์ควรชี้แจงค่าธรรมเนียมอย่างละเอียด  

6. ให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่ดี เนื่องจากแพลตฟอร์มการเทรดเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการเทรด จัดการบัญชี รวมถึงใช้งานด้านอื่น ๆ อย่างการติดตามข่าวสาร และบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปโบรกเกอร์จะให้บริการเทรดดิ้งแพลตฟอร์มกับเทรดเดอร์ ดังนั้นคุณควรศึกษารายละเอียดของแพลตฟอร์มที่แต่ละโบรกเกอร์ให้บริการว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน ตอบโจทย์การเทรดของคุณหรือไม่ 

4. การเทรด Forex ด้วย Leverage และ Margin

Leverage และ Margin คือเครื่องมือในการเทรดที่ช่วยให้คุณสามารถเทรดได้ด้วยเงินทุนไม่มาก อย่างไรก็ตามคุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะใช้ เพราะมันสามารถเพิ่มปริมาณการขาดทุนได้ด้วยเช่นกัน 

Leverage (เลเวอเรจ) เป็นการเพิ่มปริมาณการเทรดด้วยเงินเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย ทำให้คุณสามารถเทรดในสถานะที่มากกว่าปกติได้ และช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนด้วย 

ตัวอย่าง หากบัญชีเทรดของคุณมีเลเวอเรจเท่ากับ 500:1 หมายความว่าคุณจะสามารถซื้อขายได้สูงสุด 500 เท่าของจำนวนเงินในบัญชีของคุณ 

ส่วน Margin (มาร์จิ้น) คือ จำนวนเงินที่คุณต้องมีในบัญชีเทรดเพื่อใช้ในการเปิดสถานะ (หรืออาจเรียกว่าเป็น “เงินมัดจำ” นั่นเอง) ซึ่งในการเทรด Forex จะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และอัตราส่วน Leverage ที่เทรดเดอร์เลือก 

ตัวอย่าง หากบัญชีเทรดของคุณมีเลเวอเรจเท่ากับ 500:1 คุณต้องการเปิดสถานะ 1 ล็อตคู่สกุลเงิน AUD/JPY ซึ่ง 1 ล็อตจะเท่ากับ 100,000 AUD และ Margin 200 AUD หมายความว่าคุณจะต้องมีเงินอย่างน้อย 200 AUD (หรือจำนวนที่เทียบเท่าในสกุลเงินอื่น) เพื่อใช้ในการเปิดสถานะนั่นเอง 

5. เลือกสถานะซื้อขายคู่สกุลเงิน 

หลังจากเลือกสกุลเงินที่จะเทรดแล้ว ขั้นตอนนี้คือการ​​เลือกสถานะซื้อขายคู่สกุลเงิน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบดังนี้ 

BUY POSITION หรือ ซื้อคู่สกุลเงิน 

หมายถึงสถานะที่สกุลเงินตั้งต้น “แข็งค่าขึ้น” เมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง (หรือกล่าวในอีกแง่คือ สกุลเงินอ้างอิงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินตั้งต้น) โดยผลกำไรจะเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสกุลเงิน และในทางตรงกันข้ามคุณจะขาดทุนหากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดของคุณ 

ตัวอย่าง คู่สกุล EUR/USD มีมูลค่า 1.33820 คุณคาดการณ์ว่าสกุลเงินตั้งต้นจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง คุณจึงตัดสินใจเลือก “BUY POSITION” ที่ราคาซื้อ 1.33840 ต่อมามูลค่า EUR/USD เพิ่มขึ้นเป็น 1.34160 นั่นทำให้คุณได้กำไรจากการเทรด 32 pips 

SELL POSITION หรือ ขายคู่สกุลเงิน 

สกุลเงินตั้งต้น “อ่อนค่าลง” เมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง (หรือสกุลเงินอ้างอิงแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินตั้งต้น) โดยผลกำไรของคุณจะเพิ่มขึ้นหากมูลค่าแต่ละจุดตกลง และคุณจะขาดทุนหากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดของคุณ 

ตัวอย่าง คู่สกุล EUR/USD มีมูลค่า 1.33820 คุณคาดการณ์ว่าสกุลเงินตั้งต้นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง คุณจึงตัดสินใจเลือก “SELL POSITION” ที่ราคาขาย 1.33820 ต่อมามูลค่า EUR/USD เพิ่มขึ้นเป็น 1.34160 นั่นทำให้คุณขาดทุนจากการเทรด 34 pips 

สรุป

การเทรด Forex คือ การเก็งกำไรในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงิน ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสภาพคล่องสูง มูลค่าของสกุลเงินนั้นขึ้นกับหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง อัตราดอกเบี้ย หรืออัตราเงินเฟ้อ การเลือกคู่สกุลเงินที่จะเทรดจึงต้องพิจารณาจากหลายๆ ด้านนั่นเอง 

นอกจากนี้การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จยังต้องอาศัยการตั้งเป้าหมายที่ดี มีวิธีคิดที่ถูกต้องและมีความรู้เกี่ยวกับการเทรดด้วย เช่น การอ่านกราฟ Forex, หลักการเลือกโบรกเกอร์, วิธีการใช้ Leverage และ Margin ไปจนถึงการเลือกสถานะซื้อขาย 

คำถามที่พบบ่อย

ฉันจะเริ่มต้นเทรด Forex ได้อย่างไร?

คุณสามารถเริ่มต้นเทรดได้โดยเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ (แนะนำให้เลือกบัญชีทดลองหากต้องการฝึกฝนการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยง) ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคู่สกุลเงินที่คุณต้องการเทรด แล้ว​​เลือกสถานะซื้อหรือขาย จากนั้นติดตามและปิดสถานะตามกลยุทธ์การเทรดของคุณ

ใครเป็นผู้ควบคุม Forex?

Forex ไม่ได้ถูกครอบครองโดยใครเพราะ Forex คือตลาดการเงินระหว่างธนาคาร การทำธุรกรรมจะดำเนินการระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ตราบใดที่ระบบธนาคารยังคงมีอยู่ Forex ก็จะยังคงมีเช่นกัน และไม่เกี่ยวข้องกับประเทศหรือหน่วยงานของรัฐใด ๆ โดยเฉพาะ

ตลาด Forex เปิดกี่โมง?

สำหรับเวลาเปิด-ปิดของตลาดสกุลเงินใหญ่ๆ ตามเวลาในประเทศไทยมีดังนี้ 
⦿ ตลาดออสเตรเลีย เวลาเปิด 05.00 น. เวลาปิด 13.00 น.
⦿ ตลาดญี่ปุ่น เวลาเปิด 06.00 น. เวลาปิด 14.00 น.
⦿ ตลาดยุโรป เวลาเปิด 14.00 น. เวลาปิด 23.00 น.
⦿ ตลาดลอนดอน เวลาเปิด 15.00 น. เวลาปิด 23.00 น.
⦿ ตลาดอเมริกา เวลาเปิด 19.00 น. เวลาปิด 03.00 น

Margin คืออะไร?

Margin (มาร์จิ้น) คือ จำนวนเงินที่คุณต้องมีในบัญชีเทรดเพื่อใช้ในการเปิดสถานะ ซึ่งขึ้นกับแต่ละโบรกเกอร์และ Leverage ที่คุณเลือก

Trading.in.th
Logo
Enable registration in settings - general