⚠️ ข้อควรระวัง
จากการทดสอบของเราพบว่า RoboForex มีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงกว่าตลาด และค่าสเปรดมีความผันผวนสูง เราจึงแนะนำให้คุณเปลี่ยนมาเทรดกับทาง Exness ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการเทรดต่ำ มีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ที่มีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย และดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว
สรุปภาพรวม – RoboForex ดีไหม
สรุป RoboForex
💰 เงินฝากขั้นต่ำ | $10 (~฿333) |
📈 เลเวอเรจสูงสุด | 1:2000 |
🖥️ เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม | MT4, MT5 และ cTrader |
🏦 หน่วยงานกำกับดูแล | IFSC และ CySEC |
💳 การฝากและการถอนเงิน | โอนเงินธนาคาร, บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, Neteller และ Skrill |
RoboForex เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่ และผู้ที่ต้องการใช้งาน Copy Trading ด้วยเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือวิเคราะห์หลากหลาย
RoboForex เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ซึ่งโบรกเกอร์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มและปรับปรุงการให้บริการกับทางลูกค้าอยู่เสมอจนในปี 2019 ได้รับรางวัลมามากกว่า 20 รางวัล นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังได้รับการควบคุมดูแลจากหน่วยงาน IFSC และ CySEC อีกด้วย
โบรกเกอร์ RoboForex ให้บริการออนไลน์เทรดดิ้งด้วยสินทรัพย์กว่า 11,700 รายการ เช่น ฟอเร็กซ์, หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, CFD, สกุลเงินดิจิทัล เป็นต้น โดยมีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip แต่ค่าธรรมเนียมโดยรวมถือว่าสูงเมื่อเปรียบเทียบกับหลาย ๆ โบรกเกอร์ สำหรับเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ได้คือ MT4, MT5 และ cTrader รองรับทั้งบนเดสก์ท็อป, เว็บเทรดเดอร์และแอพพลิเคชั่นมือถือ นอกจากนี้ยังมีแหล่งความรู้มากมายหลายรูปแบบและฝ่ายบริการลูกค้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงโดยรองรับภาษาไทยด้วย
เราได้ทำการทดสอบพบว่า RoboForex เป็นโบรกเกอร์มีจุดเด่นหลายข้อ แต่ค่าธรรมเนียมนั้นค่อนข้างสูงกว่าตลาด เราจึงแนะนำให้คุณเปลี่ยนมาเทรดกับทาง Exness ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการเทรดต่ำ มีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ที่มีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย และดำเนินการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว เข้าดู Exness เลย
ค่าธรรมเนียม
RoboForex จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการเทรด เช่น ค่าสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามบัญชีที่คุณเลือกใช้งานและสินทรัพย์แต่ละประเภท และยังมีค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับจากการเทรด เช่น ค่าสว็อป การถอนเงิน แต่ทางโบรกเกอร์จะไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงินหรือการไม่ใช้งานในบัญชี
ค่าธรรมเนียมการเทรด
ค่าสเปรด
ค่าธรรมเนียมการเทรดของ RoboForex ถือว่าต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับหลาย ๆ โบรกเกอร์ในตลาดอย่าง FBS และ FXTM โดยในบัญชี Pro-Cent และ Pro-Standard จะมีค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.4 และ 1.6 pips สำหรับ EURUSD และ EURGBP ตามลำดับ, 1.75 pips สำหรับดัชนีของอเมริกา และ 22 pips สำหรับทองคำ
ส่วนในบัญชี Prime และ ECN จะมีค่าสเปรดที่แคบกว่า และอาจจะเท่ากับ 0 เลยในสินทรัพย์บางประเภท
หุ้นของอเมริกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น Apple Amazon Facebook ก็มีค่าสเปรดที่ไม่สูงซึ่งอยู่ที่ 0.05 2.24 และ 0.12 ตามลำดับ
ส่วน Cryptocurrency ที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดในตอนนี้ อย่างเช่น Bitcoin Ethereum Litecoin มีค่าสเปรดอยู่ที่ 1 0.2 และ 0.18 ตามลำดับ
และเมื่อเทียบค่าสเปรดเฉลี่ยในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ แล้ว เราก็เห็นได้ชัดว่าค่าธรรมเนียมของ RoboForex นั้นค่อนข้างจะสูงกว่าตลาด แต่ค่าเฉลี่ยนี้ก็อาจเปลี่ยนไปได้ตามช่วงเวลาต่าง ๆ และจะมีความผันผวนมากที่สุดเวลาที่มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นในตลาด
ค่าธรรมเนียมที่ไม่ใช่การเทรด
ค่าสว็อป
หากคุณสินทรัพย์ที่เทรดข้ามคืน ทางโบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า ค่าสว็อป ซึ่งค่าสว็อปนี้จะถูกนำไปคิดเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดสินทรัพย์ทุกประเภทตั้งแต่ Forex หุ้น ดัชนี โลหะ สินค้าโภคภัณฑ์ และ Cryptocurrency ทางโบรกเกอร์จะคิดทั้งค่า Short Swap และ Long Swap
Short Swap | Long Swap | |
---|---|---|
EURUSD | 0.09 pips | – 0.92 pips |
GBPCAD | – 0.12 pips | – 0.68 pips |
Tesla | -3 % | -6 % |
NASDAQ | -3.0 % | -6.0 % |
ทองคำ | -7.5619 pips | -17.8511 pips |
BTC/USD | -20 % | -20 % |
โดยภาพรวมแล้วถือว่าค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของโบรกเกอร์นั้นค่อนข้างจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด อย่างที่เราบอกว่าค่าสเปรดอาจผันผวนได้สูงในเวลาที่ตลาดเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ค่าสเปรดของ RoboForex จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและอาจจะเท่ากับ 0 ในบางครั้ง หากคุณอยากศึกษาให้มากขึ้นว่าค่าสเปรดของสินทรัพย์ที่คุณสนใจมีค่าเท่าไหร่ คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของโบรกเกอร์เพื่อทดลองเทรดในบัญชีทดลองได้ก่อนเลย ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น
บัญชี
RoboForex มีบัญชีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ Pro-Standard, Pro-Cent, Prime, ECN และ R Trader ซึ่งบัญชีแต่ละประเภทจะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรดที่แตกต่างกัน รวมทั้งมีเงื่อนไขในการเทรดที่แตกต่างกันไปด้วย และหากคุณต้องการเข้าถึงสินทรัพย์ได้ทุกประเภทในบัญชีเดียว ทางโบรกเกอร์ก็มีให้บริการเช่นกัน
บัญชี Pro-Standard
เป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งเหมาะสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ เพราะใช้งานง่ายและใช้เงินฝากไม่สูง รายละเอียดมีดังนี้
- เงินฝากขั้นต่ำที่ $10 (~฿300)
- สินทรัพย์ที่มี ได้แก่ Forex 36 คู่, โลหะ, CFD สำหรับหุ้นสหรัฐ ดัชนี น้ำมันและ Cryptocurrency
- ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:2000
- ปริมาณเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 ล็อตและสูงสุดที่ 500 ล็อต
นอกจากนี้คุณยังได้รับเงินสดคืนสูงสุดถึง 15% ของรายได้บริษัท โบนัสส่วนแบ่งกำไรสูงสุดถึง 60%
บัญชี Pro-Cent
ฟีเจอร์หลักของบัญชีนี้ คือการใช้เซนต์เป็นหน่วยสกุลเงินเบื้องต้น (เซนต์สหรัฐ, เซนต์ยุโรป อื่นๆ) เทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพสามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดได้ในบัญชีนี้เลย รายละเอียดมีดังนี้
- เงินฝากขั้นต่ำที่ $10 (~฿300)
- สินทรัพย์ที่มี ได้แก่ Forex 36 คู่, โลหะและ Cryptocurrency
- ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pips
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:2000
- ปริมาณเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ 0.1 ล็อตและสูงสุดที่ 10,000 ล็อต
นอกจากนี้คุณยังได้รับเงินสดคืนสูงสุดถึง 1.5% ของรายได้บริษัท โบนัสส่วนแบ่งกำไรสูงสุดถึง 60% และในบัญชีนี้ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
บัญชี Prime
บัญชีนี้มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดีที่สุดโดยเนื่องจากเป็นการให้บริการจากทางบริษัทเอง (คล้ายกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายไว้ให้เทรดเดอร์ “ขั้นสูง” ได้ใช้งานกัน รายละเอียดมีดังนี้
- เงินฝากขั้นต่ำที่ $10 (~฿300) เช่นกัน
- สินทรัพย์ที่มี ได้แก่ Forex 28 คู่, โลหะ, CFD สำหรับหุ้นสหรัฐ ดัชนี น้ำมันและ Cryptocurrency
- ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip
- มีค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:300
- ปริมาณเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 ล็อตและสูงสุดที่ 500 ล็อต
นอกจากนี้คุณยังได้รับเงินสดคืนสูงสุดถึง 5% ของค่าคอมมิชชั่น
บัญชี ECN
บัญชี ECN นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ชอบเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ เพราะมีค่าสเปรดแคบที่สุด และมีการดำเนินการที่เร็วสูงมาก รายละเอียดมีดังนี้
- เงินฝากขั้นต่ำที่ $10 (~฿300)
- สินทรัพย์ที่มี ได้แก่ Forex 36 คู่, โลหะ, CFD สำหรับหุ้นสหรัฐ ดัชนี น้ำมันและ Cryptocurrency
- ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip
- มีค่าคอมมิชชั่น
- เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:500
- ปริมาณเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 ล็อตและสูงสุดที่ 500 ล็อต
นอกจากนี้คุณยังได้รับเงินสดคืนสูงสุดถึง 15% ของรายได้ของบริษัท
บัญชี R Trader
บัญชีนี้เป็นบัญชีพิเศษสำหรับการเทรดผ่านเว็บแพลตฟอร์ม เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ที่ต้องการเข้าถึงตลาดการเงินหลักทั้งหมดจากบัญชีเดียว รายละเอียดมีดังนี้
- เงินฝากขั้นต่ำที่ $100 (~฿3,000)
- สินทรัพย์ที่มีทั้งหมดมีมากกว่า 12,000 ชนิด ได้แก่ ดัชนี, Cryptocurrency, หุ้นจริง, CFD สำหรับหุ้น Forex ETF น้ำมันและโลหะ
เนื่องจากบัญชีนี้มีสินทรัพย์หลายประเภท รายละเอียดของค่าธรรมเนียม ค่าสเปรดและเลเวอเรจที่มีจึงแตกต่างกัน เราได้สรุปมาให้คุณตามตารางข้างล่างนี้
ค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำ | ค่าสเปรด | เลเวอเรจสูงสุด | |
---|---|---|---|
หุ้นสหรัฐ (ฝากเงินตั้งแต่ 10,000 USD) | 0.25 USD | ตั้งแต่ 0.01 USD | 1:20 |
หุ้นสหรัฐ | 1.5 USD | ตั้งแต่ 0.01 USD | 1:20 |
CFD บนหุ้นสหรัฐ | 1.5 USD | ตั้งแต่ 0.01 USD | 1:20 |
หุ้นยุโรป CFD | 2.8 EUR | ตั้งแต่ 0.00 | 1:5 |
Cryptocurrency | 0.01 USD | ตั้งแต่ 0.00 | 1:1 หรือ 1:50 |
Forex | – | ตั้งแต่ 0.00 | 1:300 |
ดัชนี | 1 USD | ตั้งแต่ 0.5 | 1:100 |
บัญชีอิสลาม
บัญชีนี้เป็นบัญชีพิเศษที่ทางโบรกเกอร์ให้บริการแก่ลูกค้าชาวมุสลิม คือไม่มีการเรียกเก็บค่าสว็อป แต่จะเรียกเก็บเป็นค่าคอมมิชชั่นแบบคงที่แทน ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทคู่สกุลเงินและจำนวนล็อตที่เปิด
ขั้นตอนการเปิดบัญชี
- เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ ให้คลิกที่ ลงทะเบียน
- จากนั้นหน้าจอจะปรากฎตามภาพด้านล่าง ให้คุณกรอกข้อมูลใน 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ส่วนสมาชิก
คุณจะต้องกรอกข้อมูลอีเมล ชื่อ-นามสกุลและเบอร์โทรศัพท์
- ต่อมาเป็นส่วนที่ให้คุณจำรหัสผ่านของบัญชีและรหัสผ่านของกระเป๋าเงินของคุณ *ตรงนี้เป็นส่วนที่สำคัญมาก ต้องเก็บไว้ในที่ปลอดภัย*
- ต่อมาจะเป็นส่วนของการเปิดพอร์ต ทางโบรกเกอร์จะให้เราเลือก
– แพลตฟอร์มการซื้อขาย,
– ประเภทบัญชี,
– สกุลเงิน,
– เลเวอเรจ
จากนั้นกรอกข้อมูลที่อยู่ของคุณเพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นคลิก ยืนยัน
- โบรกเกอร์จะส่งอีเมลที่มีรหัสผ่านของบัญชีมาให้คุณ จากนั้นให้คุณคลิกไปที่อีเมลนั้นเพื่อทำการยืนยัน
จากนั้นจะเป็นขั้นตอน การยืนยันตัวตน
ให้คุณเข้าไปที่ ประวัติ => การยืนยัน
คุณจะต้องยืนยันทั้งตัวตน และยืนยันที่อยู่
เอกสารที่ใช้สำหรับการยืนยันตัวตน
- บัตรประชาชน หรือ
- หนังสือเดินทาง
เอกสารที่ใช้สำหรับการยืนยันที่อยู่
- บิลค่าน้ำ
- บิลค่าไฟ หรือ
- บิลค่าโทรศัพท์
หมายเหตุ บิลที่ใช้จะต้องเป็นบิลของรอบ 6 เดือนย้อนหลัง และจำเป็นต้องมีที่อยู่ของคุณกำกับอยู่เท่านั้น
เมื่อคุณแนบไฟล์เอกสารและส่งเรียบร้อยแล้ว จะต้องรอให้ทางโบรกเกอร์ตรวจสอบภายใน 2 วัน
บัญชีทดลอง (Demo account)
ในบัญชีทุกประเภทจะมีบัญชีทดลองให้คุณได้ลองใช้งานกัน คุณควรจะลองเทรด ศึกษาการใช้งานบนแพลตฟอร์มและเครื่องมือต่าง ๆ จากบัญชีทดลองนี้ก่อน เพราะว่าการเทรดในบัญชีนี้เทรดโดยใช้เงินทดลองที่ทางโบรกเกอร์ให้เรามา มันไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น
ประเทศที่ทางโบรกเกอร์เปิดให้บริการ
โบรกเกอร์ให้บริการในหลายประเทศทางทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม สิงคโปร์และจีน ยกเว้น ญี่ปุ่นและอเมริกา
การฝากและการถอนเงิน
โบรกเกอร์มีช่องทางการฝากถอนเงินมากมาย เช่น ธนาคารท้องถิ่น ธนาคารออนไลน์ บัตรเครดิต บัตรเดบิต Skrill Neteller รวมทั้ง Cryptocurrency และโบรกเกอร์จะคิดค่าคอมมิชชั่นเฉพาะเวลาที่คุณถอนเงินเท่านั้น
การฝากเงิน
สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ทางโบรกเกอร์เองก็มีบริการการโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์ของไทย (online banking) โดยมีเกือบทุกธนาคารของไทยเลย ถือว่าสะดวกมากสำหรับลูกค้าชาวไทย เมื่อคุณกรอกจำนวนเงินและสกุลเงินที่ต้องการฝากแล้ว จากนั้นให้กดฝากเงิน คุณจะพบว่าเงินเข้ามาในบัญชีภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น ธนาคารที่ให้บริการ ได้แก่
- กรุงเทพ
- กสิกรไทย
- ไทยพาณิชย์
- กรุงไทย
- กรุงศรี
- ทหารไทย
- ออมสิน
- ธนชาติ
- UOB
- CIMB
- City Bank
สำหรับการโอนผ่านช่องทางบัตรเครดิตและบัตรเดบิต อย่างเช่น VISA, Master Card เงินจะถูกโอนเข้าในบัญชีของคุณโดยทันทีเช่นกัน
สำหรับ Neteller และ Skrill อาจจะต้องใช้เวลารอประมาณ 15 นาทีกว่าที่เงินจะถูกโอนเข้าไปในบัญชี
การถอนเงิน
คุณสามารถใช้ช่องทางในการถอนเงินได้เช่นเดียวกับช่องทางฝากเงิน ระยะเวลาในการถอนเงิน ค่าคอมมิชชั่น และลิมิตจำนวนเงินที่ถอนได้ต่างกันไปตามช่องทางฝากเงินที่คุณเลือกใช้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ค่าธรรมเนียมการฝาก | ค่าธรรมเนียมการถอน | ระยะเวลาในการฝาก | ระยะเวลาในการถอน | ลิมิตในการฝาก | ลิมิตในการถอน | |
---|---|---|---|---|---|---|
ธนาคารท้องถิ่น | 0% | สูงสุด 4% | สูงสุด 5 วัน | สูงสุด 5 วัน | 600 – 490,000 THB | 650 – 490,000 THB |
บัตรเครดิต/บัตรเดบิต | 0% | 2.6% + 1.3 | เข้าทันที | 1-10 วัน | มากกว่า 10 USD (~฿300) | สูงสุด 10,000 USD (~฿300,000) |
Skrill | 0% | 1% | เข้าทันที | สูงสุด 1 วัน | มากกว่า 10 USD (~฿300) | มากกว่า 0.1 USD (~฿3) |
Neteller | 0% | 1.9% | เข้าทันที | สูงสุด 1 วัน | 10 – 50,000 USD (~฿300 – ฿150,000) | 5 – 50,000 USD (~฿150 – ฿150,000) |
เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม
RoboForex มีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มให้เราได้เลือกใช้งานกันถึง 4 ประเภท โดยในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีสินทรัพย์ที่คุณสามารถเทรดได้แตกต่างกันไป แต่หน้าตาของทุกแพลตฟอร์มได้ถูกออกแบบมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะเลย และยังมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำให้ระบบสามารถส่งคำสั่งเทรดได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมทั้งยังมีฟีเจอร์มากมาย เช่น ตั้งจุด Stop loss และ Take profit
MT4
MT4 ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มเทรดเดอร์ที่เทรด Forex ทั้งมืออาชีพและมือใหม่ เนื่องจากมีเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับวิเคราะห์กราฟกว่า 50 รายการ และมีโปรแกรมเทรดดิ้งโรบอตที่คุณสามารถตั้งค่าเองได้ด้วย
คุณสามารถเปิดใช้งาน MT4 ได้ในบัญชี Pro-Standard, Pro-Cent, ECN และ Prime
MT5
บน MT5 จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้สามารถส่งออเดอร์ได้เร็วขึ้น มีเครื่องมือช่วยหาโอกาสเข้าเทรดในตลาดให้คุณ และคุณยังสามารถสร้างและทดสอบการทำงานของเทรดดิ้งโรบอตได้
คุณสามารถเปิดใช้งาน MT5 ได้ในบัญชี Pro-Standard, Pro-Cent, ECN และ Prime
cTrader platform
cTrader จะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการให้ออเดอร์ที่ส่งไปได้ราคาตามที่ต้องการและทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งมีอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่า 54 รายการ
คุณสามารถเปิดใช้งาน MT5 ได้ในบัญชี Pro-Standard, ECN และบัญชีทดลอง
R Trader
คุณสามารถเทรดสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ จากทั่วโลกได้บนแพลตฟอร์มนี้ มีการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์แบบคลาสสิกเข้ามาให้เทรดเดอร์ที่ต้องใช้แพลตฟอร์มที่สามารถอำนวยความสะดวกในการเทรดและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น เช่น สามารถดูกราฟได้ทั้งหมด 14 ไทม์เฟรม
คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอร์ฟแวร์อะไรให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะสามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มนี้ได้จากเว็บเบราเซอร์ได้เลย
RoboForex Terminals
RoboForex ได้สร้างแพลตฟอร์มตัวนี้ขึ้นมาเองเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางของทุกแพลตฟอร์ม MT4 ที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและมือถือ คุณสามารถดูประวัติการเทรด และออเดอร์ที่เปิดไว้ได้ และหากมีปัญหาอะไรก็ตาม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอด
ดีไซน์ของเทรดดิ้งแพลตฟอร์ม
ถือว่าหน้าอินเตอร์เฟสใช้งานได้ง่ายและดูสะอาดตา คุณสามารถปรับแต่งหน้าแดชบอร์ดได้เองตามความต้องการทั้งบนหน้าเว็บไซต์และในแอพพลิเคชันบนมือถือ รวมถึงยังมีสีพื้นหลังให้คุณเลือกใช้ทั้งโทนสว่างและโทนมืด
การส่งออเดอร์
ระบบมีออเดอร์เทรดให้คุณเลือกใช้มากสุดถึง 4 ประเภท ได้แก่
- Sell stop
- Buy stop
- Sell limit
- Buy limit
และออเดอร์ที่รอจับคู่กับราคาถึง 6 ประเภท ได้แก่
- Sell stop
- Buy stop
- Sell limit
- Buy limit
- Stop loss
- Take profit
คุณไม่ต้องเฝ้าอยู่หน้าจอตลอดเวลาเพื่อรอให้ราคาของสินทรัพย์ถึงจุดที่คุณกำหนด แล้วกดส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพราะ RoboForex มีระบบที่คุณสามารถตั้งจุด Stop loss และ Take profit ได้
การแจ้งเตือน
RoboForex ได้ติดตั้งการแจ้งเตือนแบบ Build in เข้าไปบนทุกแพลตฟอร์มทำให้คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนตัวชี้วัดทางเทคนิคและราคาของสินทรัพย์ที่คุณต้องการได้ และคุณยังจะได้รับการแจ้งเตือนข่าวเศรษฐกิจทำให้คุณสามารถนำไปปรับพอร์ตของคุณได้ทันเวลา ทั้งนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะรับการแจ้งเตือนทางอีเมลหรือ SMS ก็ได้
พอร์ตโฟลิโอและรีพอร์ต
คุณสามารถตรวจสอบประวัติการเทรดและสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่ได้จากหน้า Terminals
เว็บเทรดเดอร์
บนเว็บเทรดเดอร์นี้รองรับการใช้งานทุกบนเบราว์เซอร์ มันจะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้มากขึ้น เนื่องจากมีเครื่องมือที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์กราฟทั้งหมด เช่น กราฟแท่งเทียน เช็คราคาย้อนหลังซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลาตามที่คุณต้องการ มีฟังก์ชันที่ช่วยทำให้การซื้อขายทำได้ง่ายขึ้น รวมทั้งบทวิเคราะห์และข่าวสารทางการเงินต่าง ๆ ซึ่งทำให้คุณทันตลาดตลอดเวลา และหาโอกาสทำกำไรเทรดในตลาดได้เร็วขึ้น
แอพพลิเคชันบนมือถือ
โบรกเกอร์ให้เราเทรดได้ทั้งบนเว็บเทรดและแอพพลิเคชันบนมือถือทั้งในระบบ IOS และ Android ซึ่งรองรับภาษาไทยทั้งคู่ จากที่เราได้ลองใช้งาน เราพบว่าทั้ง 2 แพลตฟอร์มมีชุดเครื่องมือและฟีเจอร์ต่าง ๆ เหมือนกันซึ่งคุณสามารถปรับตั้งค่าได้ตามที่คุณต้องการ แต่หน้าอินเตอร์เฟซนั้นจะต่างกันเล็กน้อย
ในความเห็นของเราคิดว่าการใช้งานบนมือถือนั้นสะดวกมากกว่าบนเว็บเทรด เพราะนอกจากการใช้เครื่องมือและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถทำได้เหมือนกันแล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่บนรถหรือเดินอยู่กลางถนน คุณก็ยังสามารถส่งคำสั่งซื้อขาย และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ผ่านบนมือถือ
จากรีวิวของผู้ที่เคยใช้งานบนแอพพลิเคชันในมือถือให้คะแนนอยู่ที่ 4.7/5 โดยพวกเขาบอกว่าเป็นแอพพลิเคชันใช้งานได้ดี ส่งคำสั้งซื้อขายได้รวดเร็วและแม่นยำ แต่ก็มีบางคนบอกว่าลงทะเบียนได้ยาก
ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
บนแพลตฟอร์มมีสินทรัพย์หลายประเภทให้คุณได้เลือกเทรดกัน
RoboForex มีสินทรัพย์ทั้งหมดราวกว่า 12,000 รายการ ซึ่งมีทั้งสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอยู่ทั่วไป เช่น Forex และสินทรัพย์ใหม่ ๆ เช่น Cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin และ Etheruem การที่มีสินทรัพย์หลายประเภทช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและซื้อขายได้ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของ RoboFoex ตัวอย่างสินทรัพย์ในแต่ละประเภทที่เป็นที่นิยม ได้แก่
ตลาด | ตัวอย่าง |
Forex | EUR/GBP, EUR/USD, GBP/USD |
CFD สำหรับหุ้น | Apple, Amazon, Facebook |
ดัชนี | Dow Jones, NASDAQ |
โลหะมีค่า | เงิน ทองคำ แพลตินัม |
สินค้าโภคภัณฑ์ | โกโก้ กาแฟ ข้าวโพด |
Cryptocurrency | Bitcoin, Litecoin, Ripple |
การค้นคว้า
ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่ช่วยทำให้การเทรดและการลงทุนประสบความสำเร็จมากขึ้น ทางโบรกเกอร์ได้มีพร้อมให้บริการคุณอยู่บนแพลตฟอร์มแล้ว
CopyFX
เป็นเครื่องมือที่ทำให้คุณสามารถคัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพกว่า 1,000 ราย ซึ่งจะทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้เช่นเดียวกับพวกเขา โดยคุณจะต้องลงทุนอย่างน้อย $100 (~฿3,000) ในการใช้ CopyFX นี้คุณจะได้รับเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงแบบอัตโนมัติด้วย
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองฝีมือการเทรดที่ดีก็สามารถสมัครเป็นผู้ให้สัญญาณการเทรดได้ โดยคุณจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อเทรอเดอร์ที่คัดลอกวิธีการเทรดของคุณสามารถทำกำไรได้
VPS hosting
ไม่ว่าคุณจะใช้บัญชีประเภทใด RoboForex ให้คุณใช้งาน VPS hosting ได้แบบฟรี ๆ เพียงแค่คุณมีเงินในบัญชีอย่างน้อย $300 (~฿9,000) จุดนี้ถือเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของทางโบรกเกอร์ที่เหนือกว่าโบรกเกอร์รายอื่นที่จะคิดค่าการใช้งานอยู่ที่ $30 (~฿900) ต่อเดือน
แหล่งความรู้
มีแหล่งความรู้มากมายหลายรูปแบบให้เทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพได้ศึกษากัน เช่น วิดีโอที่สอนการใช้งานแพลตฟอร์ม และความรู้เรื่อง Forex (ภาษาอังกฤษ), eBook และการสัมมนาทางออนไลน์
และที่สำคัญ RoboForex ได้ร่วมมือกับทาง Claws & Horns ทำบทวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินไว้มากมาย เพราะเขาตระหนักดีว่าความรู้เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเทรดและการลงทุนได้ โดยบทวิเคราะห์เหล่านี้จะถูกอัพโหลดเข้าไปในบล็อคให้พวกเราได้ศึกษาอ่านกัน จากที่เราได้เข้าไปอ่านพบว่าข้อมูลที่มีนั้นเป็นข้อมูลที่มีการอัพเดตเป็นปัจจุบันอย่างเหมาะสม
โดยรวมแล้วถือว่ามีแหล่งความรู้มากมายและมีประโยชน์สำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ แต่ว่าเนื้อหาบางอย่างไม่มีเป็นภาษาไทย
ฝ่ายบริการดูแลลูกค้า
คุณสามารถติดต่อโบรกเกอร์เป็นภาษาไทยได้ผ่านทางการแชท อีเมล ไลฟ์แชทและโซเชียลมีเดีย
ฝ่ายบริการลูกค้าของ RoboTrader พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24/7 โดยในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการตามเวลาทำการ ส่วนในช่วงสุดสัปดาห์จะมีเจ้าหน้าที่ต่างชาติคอยให้บริการอยู่ตลอด ความเร็วในการตอบกลับถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่พวกเขาก็ให้คำตอบได้ดี และยังส่งลิงก์เรามาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเองด้วย
คำถามที่พบบ่อยมีอยู่บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ในส่วนท้ายของหน้า โดยที่คำถามจะถูกจัดลำดับตามหัวข้อไป เช่น ข้อมูลทั่วไป การฝากและถอน เงื่อนไขในการซื้อขาย เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม ฯลฯ หากคุณมีคำถามนอกเหนือจากนี้ คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้ผ่านช่องทางการแชทที่อยู่บนเว็บไซต์
ความปลอดภัย
RoboForex มีมาตรการป้องกันความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น การป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ การแยกบัญชีธนาคารเงินฝากของลูกค้า และยังได้รับการควบคุมจากหน่วยงานทางการเงิน คือ IFSC และ Labuan FSA
RoboForex Ltd เป็นโบรกเกอร์ระหว่างประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่ประจำอยู่ที่ประเทศเบลีส และยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกันกับโบรกเกอร์อีกแห่ง (Related company) ซึ่งให้บริการในประเทศแถบเอเชีย นั่นคือ RoboMarkets Asia Ltd
ตารางข้างล่างนี้คือหน่วยงานที่คอยควบคุมสาขาทั้ง 2 แห่ง :
โบรกเกอร์ | พื้นที่ | หน่วยงาน | จำนวนเงินประกัน |
---|---|---|---|
RoboForex Ltd | เบลีส | International Financial Services Commission Belize (IFSC) | 5,000,000 EUR (183,000,000 THB) |
RoboMarkets Asia Ltd | มาเลเซีย | Labuan FSA | 5,000,000 EUR (183,000,000 THB) |
โบรกเกอร์ยังได้รับใบรับรองคุณภาพการดำเนินการ Verify My Trade (VMT) และปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างจริงจัง และตามนโยบาย AML ทำให้โบรกเกอร์ต้องแยกบัญชีเงินฝากของลูกค้ากับบัญชีธนาคารที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจของโบรกเกอร์เอง เพื่อเป็นการป้องกันลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์เกิดล้มละลาย
นอกจากนี้ RoboForex ยังเป็นสมาชิกของ The Financial Commission ที่ดำเนินการในฮ่องกง ซึ่งเป็นองค์กรอิสระแห่งแรกที่กำกับดูแลตนเองและหน่วยงานระงับข้อพิพาทภายนอก (EDR) สำหรับตลาด Forex การเป็นสมาชิกนี้ทำให้โบรกเกอร์ต้องเข้าร่วมกองทุนเงินทดแทนซึ่งประกันเงินฝากสูงสุด €20,000 (~฿730,000)
นโยบายป้องกันเงินในบัญชีติดลบ
RoboForex มีนโยบายนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เทรดเดอร์เทรดจนเกิดการขาดทุนมากไปกว่าเงินทุนที่นำมาลงทุน ซึ่งถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ดีให้แก่นักลงทุนมือใหม่ที่อาจจะไม่ทราบความเสี่ยงของตลาดการเงินในช่วงเวลาที่มีการผันผวนของราคามากกว่าปกติ
สรุป
RoboForex เหมาะสำหรับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพที่สนใจเทรด Forex, หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึง Cryptocurrency โดยมีบัญชีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 และค่าธรรมเนียมโดยรวมถือว่าไม่สูงมาก
มีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มทั้ง MT4 และ MT5 ที่คุณสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและแอพพลิเคชันบนมือถือ ทำให้คุณสามารถเข้าใช้งานและเทรดได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังมีระบบ CopyFX ซึ่งทำให้คุณสามารถคัดลอกวิธีการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพได้ แต่ถ้าคุณยังไม่อยากนำเงินจริงมาเสี่ยงในการเทรด คุณสามารถลองเทรดในบัญชีทดลองก่อนได้เลย
คำถามที่พบบ่อย
$10 (~฿300)
บัญชีทุกประเภทสามารถใช้งานบัญชีทดลองได้
ได้ คุณสามารถใช้ได้ทั้ง MT4 และ MT5