รีวิว BDSwiss 2022 – สิ่งที่คุณควรจะต้องรู้

สรุปภาพรวม – BDSwiss ดีไหม

BDSwiss เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์เทรดฟอเร็กซ์และ CFD เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2012 ในซูริก ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไซปรัส และมีบัญชีที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านบัญชีทั่วโลก รางวัลที่ BDSwiss ได้รับมีมากมาย เช่น BEST FX & CEDs PROVIDER ในปี 2020 จาก International Investor Awards นอกจากนี้โบรกเกอร์ได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ CySEC, FSC และ ICF ส่วนมาตรการความปลอดภัยโบรกเกอร์จะแยกบัญชีเงินทุนของลูกค้าออกจากของโบรกเกอร์ 

คุณสามารถเทรด CFD ในตลาดประเภทต่างมากกว่า 250 รายการ เช่น ฟอเร็กซ์, สกุลเงินดิจิทัล, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น BDSwiss ให้บริการออนไลน์เทรดดิ้งบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4, MT5 มีทั้งรูปแบบติดตั้งบนเดสก์ท็อป เว็บเทรดเดอร์และแอพพลิเคชั่นมือถือ ซึ่งได้รับการออกแบบที่ดี ใช้งานได้ง่าย ค่าธรรมเนียมในการเทรดกับโบรกเกอร์รายนี้อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย และค่าสเปรดจะต่ำในบางบัญชี 

เราได้ทำการทดสอบพบว่า แม้ BDSwiss จะมีเครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐานและการฝึกอบรมที่ดี แต่โบรกเกอร์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรด เราจึงแนะนำให้คุณเปลี่ยนมาเทรดกับทาง XTB ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย และอนุญาตให้เทรดเศษหุ้น หรือ Fractional Shares ได้ เข้าดู XTB เลย

การเปิดบัญชี

มีบัญชีหลากหลายประเภทให้คุณได้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม

BDSwiss มีบัญชีอยู่หลากหลายประเภท สำหรับลูกค้าที่อาศัยที่ไม่ได้อยู่ในยุโรป คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:400 หากคุณเปิดบัญชีผ่าน BDS Markets ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของ BDSwiss

มีบัญชี 3 ประเภทหลักให้เลือก ได้แก่ บัญชี Basic, บัญชี Gross Spread, และบัญชี Black 

บัญชี Basic 

ในบัญชีประเภทนี้ทาง BDSwiss จะไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการเทรดซื้อขาย แต่ละมีค่าสเปรดที่ค่อนข้างจะผันผวนและกว้าง จริงแล้วค่าสเปรดอยู่ที่ประมาณ 1.5 pip สำหรับ EUR/USD ภายใต้สภาวะปกติของตลาด และบัญชีประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสวิงเทรดเดอร์ที่จับตาความเคลื่อนไหวในตลาดอยู่เสมอ

บัญชี Gross Spread 

ในบัญชี ECN นี้จะมีค่าสเปรดที่ค่อนข้างจะดีกว่าสำหรับคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์และสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม BDSwiss จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นทุกครั้งที่คุณทำการเปิดซื้อขาย  บัญชีประเภทนร้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์รายวันหรือนักค้ากำไรที่เทรดอยู่บ่อยๆ และต้องการค่าธรรมเนียมการดำเนินการ

บัญชี Black 

บัญชีนี้จะคล้ายกับบัญชี Basic แต่จะมีฟีเจอร์หลายอย่างที่ทาง โบรกเกอร์เป็นผู้ให้บริการเอง ค่าสเปรดก็จะถูกกว่าบัญชี Basic อย่างเช่น ค่าสเปรดโดยเฉลี่ยจะเท่ากับ 1 pip สำหรับ EUR/USD (เทียบกับ 1.5 pip ในบัญชี Basic) สำหรับผู้ใช้งานในบัญชีประเภทนี้จะได้รับการบริการที่พิเศษมากขึ้นและยังสามารถเข้าถึงการฝึกอบรมระดับพรีเมียมที่ไม่มีให้บริการโดยตรงบนไซต์ของ BDSwiss อีกด้วย

นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังให้บริการ Virtual Private Server (VPS) ฟรีซึ่งเหมาะอย่างยิ่งหากคุณคิดอยากจะทำการซื้อขายแบบอัตโนมัติ และขนาดขั้นต่ำในการเปิดคำสั่งเทรดอยู่ที่ 0.1 ล็อต (เทียบกับ 0.01 ล็อตสำหรับบัญชี Basic) และคุณยังสามารถเลือกรับสัญญาณการเทรดจากโบรกเกอร์ได้ด้วย

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บัญชีประเภทใดก็ตาม BDSwiss จะมีบัญชีทดลองให้คุณได้ลองใช้ฝึกฝนการเทรด ในบัญชีทดลองยังช่วยให้คุณได้เรียนรู้แพลตฟอร์มประเภทต่างๆ ที่นำเสนอโดยโบรกเกอร์ คุณจะสามารถพัฒนากลยุทธ์การเทรดของคุณเองได้โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย

การเปิดบัญชี

การเปิดบัญชีใช้งานบนแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์นี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงแค่คุณคลิกที่ปุ่ม “ลงทะเบียน” บนเมนูหลักของเว็บไซต์ จากนั้นคุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ชื่อ-นามสกุล, ประเทศที่อยู่, อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์)

หลังจากสร้างบัญชีแล้วคุณจะสามารถใช้งานบัญชีทดลองได้  คุณจะได้เห็นแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ต่างๆ และในการทำการซื้อขายจริงนั้น คุณจะต้องยืนยันบัญชีของคุณด้วยการส่งรูปถ่ายบัตรประจำตัวของคุณ (ด้านหน้าและด้านหลัง) หรือหนังสือเดินทางของคุณ รวมถึงต้องมีหลักฐานการพำนักด้วยเช่นกัน เช่น ใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร

การตรวจสอบข้อมูลสามารถทำเสร็จได้ค่อนข้างรวดเร็วและสามารถทำได้ภายใน 24 ชั่วโมงในวันทำการ เมื่อบัญชีของคุณได้รับการยืนยันแล้ว คุณจะได้รับอนุญาตให้ฝากเงินเข้าในบัญชี

การฝากและการถอนเงิน

มีช่องทางการฝากและถอนเงินอยู่หลายวิธี เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, Skrill, Neteller รวมทั้งสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin และ Ethereum ด้วย

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ทางโบรกเกอร์เองก็มีบริการการโอนเงินผ่าน Online Banking โดยมีเพียง 8 ธนาคารในประเทศที่ไทยคุณสามารถเลือกใช้บริการได้: 

• ธนาคารกรุงเทพ
• ธนาคารกสิกรไทย
• ธนาคารกรุงไทย
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• ธนาคารออมสิน
• ธนาคารทหารไทย
• ธนาคารไทยพาณิชย์
• ธนาคาร CIMB THAI

การฝากเงินผ่านบัตรและกระเป๋าเงินจะสามารถทำได้ในทันที ในขณะที่การโอนเงินผ่านธนาคารอาจใช้เวลาถึง 7 วันทำการกว่าเงินจะเข้าสู่บัญชีซื้อขายของคุณ

คุณจะต้องถอนเงินผ่านช่องทางเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงินเท่านั้น คำขอถอนเงินจะดำเนินการได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงแต่อาจจะใช้เวลาถึง 3 วันกว่าที่คุณจะได้รับเงินจริงๆ โดยคุณจะสามารถติดตามประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมดได้จากแดชบอร์ดของคุณ

และสิ่งสำคัญที่สุดคือบัญชีที่คุณใช้ในการฝากและถอนจะต้องอยู่ในชื่อของคุณเท่านั้น

ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

มีสินทรัพย์สำหรับ CFD ที่จำกัดแต่จะมีสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดอยู่บนแพลตฟอร์ม

BDSwiss มีการซื้อขายในตราสารทางการเงินหลายประเภท โดยบนแพลตฟอร์มจะมีคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์มากกว่า 70 คู่รวมถึง CFD สำหรับดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, สกุลเงินดิจิทัลและหุ้น อย่างไรก็ตามทางเราพบว่าสินทรัพย์ต่างๆ สำหรับ CFD นั้นยังมีค่อนข้างจำกัดโดยมีทั้งหมดประมาณ 250 รายการในขณะที่โบรกเกอร์รายอื่นๆ จะมีกว่าหลายพันรายการ

ในตารางด้านล่างนี้แสดงสินทรัพย์บางส่วนที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม 

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์	สินค้าโภคภัณฑ์	คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์	หุ้น	ดัชนี
EUR / USD	XAU / USD (ทองคำ)	BTC / USD	Apple	SP500
GBP / USD	XAU / EUR	BTC / EUR	Amazon	CAC 40
USD / JPY	XAG / USD (เงิน)	LTC / USD	Facebook	DAX
EUR / JPY	USOIL	ETH / USD	Alibaba	FTSE
AUD / USD	NGAS	ETH / EUR	Ebay	Nasdaq

ค่าธรรมเนียม

ค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นถือว่าสามารถยอมรับได้และเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

ค่าธรรมเนียมการฝากและการถอนเงิน

BDSwiss ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากนี้ยังสามารถถอนเงินได้ฟรีอีกด้วยหากถอนจำนวนมากกว่า €100(~฿3,700) แต่จะมีค่าธรรมเนียม €10(~฿370) สำหรับการถอนเงินจำนวนที่ต่ำกว่า €100(~฿3,700) ซึ่งการถอนเงินนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 24 ชม. ทำการ

ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่น

ค่าสเปรดนั้นค่อนข้างจะผันผวนและค่อนข้างกว่าสำหรับในบัญชี Basic แต่ค่าสเปรดจะต่ำลงในบัญชี Gross Spread (ECN) ข้อเปรียบเทียบระหว่างสองบัญชีนี้คือ ค่าสเปรดของเงินยูโรจะอยู่ที่ 1.5 pip ในบัญชี Basic และยังไม่มีค่าคอมมิชชั่นด้วย

ในทางตรงกันข้าม ในบัญชี Gross Spread (ECN) จะมีต้นทุนในการเทรดอยู่ที่ 0.4 pip + 0.8 pip ค่าคอมมิชชั่น (หรือ $8(~฿240) ต่อล็อตการซื้อขาย) สำหรับ CFD ของตราสารทุนจะไม่มีสเปรดแต่จะมีค่าคอมมิชชั่น 0.15% 

เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม

BDSwiss มีให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายของบุคคลภายนอกเช่นเดียวกับแอปพลิเคชันมือถือที่เป็นของโบรกเกอร์เองด้วย

BDSwiss มีแพลตฟอร์มทั้งหมด 3 แพลตฟอร์มในการซื้อขาย ฟอเร็กซ์และ CFD ได้แก่ แอปพลิเคชันบนมือถือ, Metatrader 4 และ Metatrader 5

Metatrader 4

MT4 เป็นที่นิยมอย่างมากในโลกของการซื้อขายออนไลน์ โดยแพลตฟอร์มนี้มีให้บริการโดยโบรกเกอร์ออนไลน์จำนวนมาก Metatrader 4 เป็นแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือการทำงานเยอะมาก เช่น เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค, การจัดการบัญชีและการจัดการความเสี่ยง คุณสามารถติดตามสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ BDSwiss   ได้ 

แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้คุณสามารถสร้างเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคของคุณเองหรือหุ่นยนต์ที่ใช้ในซื้อขายเพื่อทำให้การซื้อขายเป็นไปโดยอัตโนมัติ MetaQuotes ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนา Metatrader ยังให้บริการคุณผ่านทางแพลตฟอร์มนี้ พร้อมทั้งมีเครื่องมือชี้วัดและหุ่นยนต์ที่ช่วยในการซื้อขายต่างๆ แบบฟรี แต่บางครั้งก็มีค่าใช้จ่ายด้วย

Metatrader เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่าต่างๆ ตามความต้องการของคุณเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ  คุณสามารถแสดงชาร์ทหลายๆ ชาร์ทในเวลาเดียวกันและยังสามารถทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อการซื้อขายได้อีกด้วย นอกจากนี้ MT4 ช่วยให้คุณสามารถตั้งคำสั่งซื้อขายในตลาดและรวมทั้งคำสั่งซื้อขายที่รอตัดบัญชีได้ด้วย

Metatrader 5

Metatrader 5 เหมาะสำหรับการซื้อขาย CFD มากกว่า Metatrader 4 แต่ก็มีฟังก์ชันการทำงานเช่นเดียวกับ Metatrader 4 คุณสามารถใช้ Metatrader 5 เพื่อส่งหรือรับสัญญาณการซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มนี้ยังมีเครื่องมือต่างๆ แบบใช้งานฟรีที่น้อยกว่าของ Metatrader 4

ทั้ง MT4 และ MT5 สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของ BDSwiss ในส่วนของ “การซื้อขาย” และมีเวอร์ชันสำหรับ Windows และ Mac ด้วยทคุณยังสามารถเข้าใช้งานบัญชีซื้อขายของคุณได้โดยตรงจากเวอร์ชันออนไลน์ของ MT4 และ MT5

BDSwiss Mobile

BDSwiss ได้พัฒนาแอปพลิเคชันการซื้อขายบนมือถือของตัวเองไว้ โดยสามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนทั้งในระบบ iOS และ Android แอพนี้มีให้บริการในภาษาต่างๆ รวมทั้งภาษาไทยด้วยเช่นกัน แพลตฟอร์มนี้ได้ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่าย

คุณสามารถค้นหาฟังก์ชันและเครื่องมือทั้งหมดได้บนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้คุณยังสามารถทำการฝากและถอนเงินจากแอปพลิเคชันมือถือได้ด้วย

และคุณสามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วยการตั้งคำสั่งการตัดขาดทุนและการทำกำไรผ่านแอพพลิเคชันได้เลย อย่างไรก็ตามจากชาร์ทต่างจะไม่อนุญาตให้คุณทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคและยังไม่มีเครื่องมือวาดภาพและเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคในแอปพลิเคชันด้วย แต่คุณก็สามารถกำหนดรายการสินทรัพย์ที่คุณชื่นชอบได้เพื่อให้คุณสามารถเข้าดูได้เร็วขึ้น

การค้นคว้า

ทาง BDSwiss มีเครื่องมือ, เนื้อหาและยังมีสัญญาณการซื้อขายไว้ให้สำหรับลูกค้าด้วย

BDSwiss มีเครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐานมากมายให้คุณ เช่นปฏิทินเศรษฐกิจ ทีมนักวิเคราะห์ของ BDSwiss ได้ทำการเผยแพร่บทวิเคราะห์และมุมมองเกี่ยวกับตลาดอยู่เป็นประจำ โดยข้อมูลนี้สามารถช่วยให้คุณเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ BDSwiss ยังมีบล็อกเกี่ยวกับตลาดการเงินและข้อมูลสินทรัพย์ที่อาจจะมีประโยชน์ เมื่อเป็นลูกค้าของ BDSwiss แล้วคุณจะสามารถเลือกใช้สัญญาณการซื้อขายที่นักวิเคราะห์ของ BDSwiss นำเสนอให้ได้

ฝ่ายบริการดูแลลูกค้า 

มีจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดียหลายรายการ

คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการดูแลลูกค้าได้ในวันทำการได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านการแชททางออนไลน์และบนเว็บไซต์คุณยังสามารถติดต่อได้ผ่านทาง Telegram หรือ WhatsApp  หรือคุณสามารถใช้แบบฟอร์มติดต่อจากหน้าการช่วยเหลือได้  และนอกจากนี้คุณยังสามารถทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ของคุณไว้กับทางโบรกเกอร์เพื่อขอให้ตัวแทนโทรกลับหาคุณ ทางเราได้ลองทดสอบแชทออนไลน์และพบว่ามีตัวแทนเข้ามาช่วยเราในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

การฝึกสอน

มีเนื้อหาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการซื้อขายออนไลน์

การฝึกสอน Trading Academy มีโครงสร้างด้วยกันใน 3 ระดับ: ระดับเริ่มต้น, ระดับกลางและระดับสูง โดยนี่เป็นการฝึกสอนอย่างละเอียดซึ่งมีเนื้อหาที่เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้นเพื่อให้สามารถเริ่มต้นการซื้อขายออนไลน์ได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาออนไลน์ที่จัดขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทและหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการเทรด สามารถติดต่อผู้จัดการส่วนตัวหรือฝ่ายบริการลูกค้า

เนื้อหาการฝึกสอนทั้งหมดนี้ไม่รองรับภาษาไทย

ความปลอดภัย

BDSwiss เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุมในยุโรปซึ่งได้ปฏิบัติตามข้อบังคับที่กำหนดไว้สำหรับการเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์แล้ว

ความปลอดภัยเป็นประเด็นสำคัญในการลงทุนกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ในฐานะที่เป็นสถาบันการเงินนั้นทางโบรกเกอร์จะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานด้านตลาดการเงินด้วย สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดให้พวกเขาปฏิบัติตามกฎการควบคุมทางการเงิน

บริษัทแม่ของ BDSwiss คือ BDSwiss Group โดยมีเปิดไปแล้วหลายสาขาซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานทางการตลาด โดย BDSwiss Holding Plc ซึ่งเป็นสาขาในยุโรปของ BDSwiss ก็ได้รับการควบคุมโดย Cyprus Securities and Exchange Commission (CySec) ในไซปรัสตั้งแต่ปี 2013 และเช่นเดียวกับตลาด BDS ที่ได้รับการควบคุมโดย Financial Services Commission (FSC) ในมอริเชียส อีกทั้ง BDSwiss GmbH ยังได้จดทะเบียนในประเทศเยอรมนีโดยเป็นตัวแทนที่เชื่อมโยงกับ BDSwiss Holding Plc

เพื่อความปลอดภัยในเงินทุนของลูกค้า ทาง BDSwiss ได้เข้าเป็นสมาชิกของ Investor Compensation Fund (ICF) ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยประกันความปลอดภัยให้ลูกค้าของโบรกเกอร์ออนไลน์ ICF ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ในไซปรัสโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องเงินทุนของลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์เกิดล้มละลายขึ้นมา ดังนั้นเงินของลูกค้าจะถูกแยกไปยังธนาคารที่ต่างกันและจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเงินของโบรกเกอร์ ดังนั้นคุณจึงมีความมั่นใจเมื่อทำการซื้อขายกับ BDSwiss ได้ เพราะว่าเงินของคุณจะได้รับความคุ้มครองและพร้อมที่จะให้คุณได้ใช้งานตลอดเวลาในทุกสถานการณ์

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยของการทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ ทาง BDSwiss ได้ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบล่าสุดเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้า

สรุป – BDSwiss รีวิว

BDSwiss เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เชื่อถือได้ และอันที่จริงแล้วโบรกเกอร์ยังอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานตลาดการเงินหลายแห่ง และบัญชีของลูกค้านั้นจะถูกแยกออกจากกันโดยขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณเปิดบัญชีด้วย และในแง่ของการซื้อขาย ทางโบรกเกอร์มีหลายแพลตฟอร์มให้ลูกค้าสามารถเทรดสินทรัพย์ทั้งหมดที่โบรกเกอร์มีให้ได้

ฝ่ายบริการดูแลลูกค้าของ BDSwiss ถือว่าทำงานได้ดีและเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งยังมีช่องทางต่างๆ ในการติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าด้วย และเรื่องของการฝึกสอนการซื้อขาย ทาง BDSwiss ก็มีแหล่งข้อมูลที่ดีที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้ของคุณเกี่ยวกับตลาดการเงินโดยเนื้อหาความรู้นี้ไม่รองรับภาษาไทย

คำถามที่พบบ่อย

---

การเทรดในฟอเร็กซ์/ CFDs และตราสารอนุพันธ์ต่าง ๆ เป็นวิธีการเทรดเพื่อการเก็งกำไรสูงจึงมีระดับความเสี่ยงที่อยู่ในระดับสูงเช่นกัน เงินทุนของคุณมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียทั้งหมด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจไม่เหมาะสำหรับทุนคน และคุณควรมั่นใจว่าคุณได้ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลองหาคำแนะนำจากแหล่งต่าง ๆ และลงทุนเฉพาะเงินทุนที่คุณสามารถสูญเสียได้

---