รีวิว Interactive Brokers 2022 – จะเหมาะกับมือใหม่หรือไม่

สรุปภาพรวม – Interactive Brokers ดีไหม

Interactive Brokers เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่มีประวัติการก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี 1977 ในสหรัฐอเมริกา และมีการดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนในตลาดกว่า 135 แห่งใน 33 ประเทศทั่วโลก และรองรับ 24 สกุลเงิน ได้รับรางวัล Best Online Brokers ในปี 2021 โดย Barron’s และอีกมากมาย หน่วยงานที่ควบคุม Interactive Brokers ได้แก่ SEC, FINRA, NYSE, FCA รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ทั่วโลก

เราวิเคราะห์จุดเด่นของ Interactive Brokers โบรกเกอร์ที่ให้บริการออนไลน์เทรดดิ้งแก่นักลงทุนมืออาชีพ สามารถเทรดสินทรัพย์ได้หลากหลายทั่วโลก เช่น หุ้น, ออปชั่น, ฟิวเจอร์ส, พันธบัตร เป็นต้น โดยมีเทรดดิ้งแพลตฟอร์ม Client Portal ที่ยอดเยี่ยม เราได้เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมกับโบรกเกอร์รายอื่น ซึ่งการเปิดบัญชีกับ Interactive Brokers นั้นมีค่าธรรมเนียมต่ำ รวมถึงค่าคอมมิชชันในการเทรดที่ไม่แพง โดยเฉพาะการเทรดหุ้นและอนุพันธ์ที่ได้รับความนิยมสูง นอกจากนี้ยังไม่มีค่าบำรุงรักษาบัญชีอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ Interactive Brokers จะมีจุดเด่นในหลาย ๆ ด้าน แต่เทรดดิ้งแพลตฟอร์มรวมถึงเว็บไซต์ที่ให้บริการนั้นใช้งานได้ค่อนข้างยาก ไม่รองรับภาษาไทย เราประเมินว่า Exness เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับการเทรดมากกว่า ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่ไปจนถึงเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ด้วยเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีสินทรัพย์หลายประเภท และสามารถดำเนินการเทรดได้อย่างรวดเร็ว เข้าดู Exness เลย

การเปิดบัญชี

การเปิดบัญชีสามารถทำได้ทางออนไลน์ทั้งหมด แต่กระบวนการต่างๆ นี้ค่อนข้างมีความซับซ้อนและมีเอกสารหลายฉบับที่คุณอาจจะต้องส่งให้แก่ทางโบรกเกอร์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางการเงินของคุณด้วย

บัญชีประเภทต่างๆ

Interactive Brokers มีบริการบัญชีทั้งหมด 2 ประเภท: Personal Accounts และ Institutional Accounts.

Personal Accounts (บัญชีส่วนบุคคล) ให้สำหรับการลงทะเบียนในนามของบุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป แต่สำหรับ Institutional Accounts (บัญชีสำหรับสถาบัน) ใช้สำหรับการลงทะเบียนในนามของบริษัทหรือที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

ทางโบรกเกอร์มีบริการบัญชีทดลอง (Paper trading) ให้ลูกค้าได้ลองใช้เทรดบนแพลตฟอร์มและลองทดสอบกลยุทธ์การเทรดของตนเอง

ทาง IB ไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย   แต่จะต้องมีหลักประกันขั้นต่ำในการถือออเดอร์เทรดไว้ มาร์จิ้นนี้จะถูกกำหนดตามตราสารและเลเวอเรจที่ใช้

บัญชีทดลอง (Paper Trading)

หากคุณต้องการทดสอบกลยุทธ์เทรดดิ้งบนแพลตฟอร์มหรือเพียงแค่ต้องการเข้ามาดูบริการของโบรกเกอร์ คุณสามารถสร้างบัญชีทดลองได้ฟรี บัญชีนี้มีเครดิตสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ที่จะอยู่ในกองทุนเสมือน เทรดเดอร์มืออาชีพที่ชอบเทรดในปริมาณมากๆ จะสามารถสัมผัสบรรยากาศเหมือนการเทรดในบัญชีจริงได้

ประเภทบัญชีสำหรับรายย่อย

มีบัญชีดังต่อไปนี้:

• บัญชีบุคคลธรรมดา (Individual account): มีไว้สำหรับบุคคลคนเดียวที่ต้องการจัดการเงินลงทุนของตนเอง ในบัญชีนี้คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันทั้งหมดที่ทางโบรกเกอร์มีบริการ และสามารถเพิ่มผู้ใช้อื่นด้วยพร็อกซีได้ด้วย

• บัญชีร่วม (Joint Account): บัญชีนี้จะถูกบริการโดยบุคคลสองคนซึ่งแต่ละคนสามารถเพิ่มผู้ใช้รายอื่นด้วยพร็อกซีได้

• บัญชีเกษียณ(Retirement Account): มีให้ใช้บริการเฉพาะผู้ที่ต้องเสียภาษีในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่จะต้องมีบัญชีเพื่อการเกษียณอายุส่วนบุคคล (IRA)

• บัญชีเชื่อมั่น (Trust Account): เป็นบัญชีที่ถือโดยนิติบุคคลที่ลงทุนในนามของคุณ

• บัญชีที่ปรึกษาการลงทุนที่ได้รับอนุญาต (Authorized Investment Adviser Account): มีไว้สำหรับผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นผู้จัดการดูแลเงินของลูกค้า หรือที่เรียกว่าบัญชีเงินฝาก UGMA & UTMA สามารถใช้โดยบุคคลที่จัดการบัญชีสำหรับผู้เยาว์ บัญชีนี้มีให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกา โดยที่ไม่มีบริการการใช้เลเวอเรจ

• บัญชีเพื่อนและกลุ่มครอบครัว (Friends and Family Group Account): คุณสามารถเลือกบัญชีนี้และจัดการการลงทุนของคุณเองเช่นเดียวกับของเพื่อนหรือครอบครัวของคุณ บัญชีนี้จะจำกัดจำนวนสมาชิกเพียง 15 คนเท่านั้นซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน สมาชิกทุกคนสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในการจัดการบัญชีได้ แต่จะมีเพียงที่ปรึกษาเท่านั้นที่สามารถทำธุรกรรมได้

ประเภทบัญชีสำหรับระดับสถาบัน

มีบัญชีประเภทต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับนักลงทุนสถาบันได้แก่

• กลุ่มการค้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ (Proprietary Trading Group): บัญชีที่ถือโดยบริษัทเพื่อการลงทุน และสามารถเริ่มทำธุรกรรมได้โดยมีผู้ใช้ตั้งแต่หนึ่งรายขึ้นไป

• บัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (Accounts for Small Businesses): สำหรับ SMEs ที่มีเงื่อนไขน้อยกว่า

• บัญชีโบรกเกอร์ (Broker Account): เปิดโดยโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตซึ่งสามารถสร้างผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อมทั้งมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันมากมายรวมถึงการเทรดด้วยแน่นอน

• บัญชีสำหรับที่ปรึกษา (Advisor Accounts): สำหรับที่ปรึกษาที่ได้รับอนุญาตให้สร้างบัญชีลูกค้าหลายบัญชีพร้อมมีเงินสำรองสำหรับการทำธุรกรรม

• บัญชีออฟฟิศครอบครัว (Family Office Accounts): สำหรับบริษัทเพื่อการลงทุนที่ต้องการจัดการดูแลเงินทุนของครอบครัวที่มีความมั่งคั่งร่ำรวย

อย่างที่คุณได้เห็นแล้ว Interactive Brokers มีบัญชีหลายประเภทเพื่อตอบสนองรับความต้องการของนักลงทุนทุกระดับ

IBKR Lite หรือ IBKR Pro

IB ยังมี IBKR Lite และ IBKR Pro โดยทั้ง 2 แผนนี้มีข้อแตกต่างกันอยู่หลายประการ:

• IBKR Lite เป็นแผนที่มีให้บริการสำหรับบัญชีส่วนบุคคลเท่านั้น ในขณะที่ IBKR Pro สามารถใช้ได้กับบัญชีทุกประเภทที่ได้กล่าวถึง
• IBKR Pro สามารถใช้ได้กับเทรดดิ้งแพลตฟอร์มของ IB ทั้งหมด ยกเว้น Trader Workstation 
• สามารถซื้อขาย US-based stocks และ ETFs ได้ฟรีบน IBKR Lite เท่านั้น
• ไม่มีค่าธรรมเนียมการดูแลบัญชีสำหรับแผน IBKR Lite แต่คุณต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น $20(~฿600) ต่อเดือนในแผน IBKR Pro ในกรณีที่ค่าคอมมิชชั่นทั้งหมดของคุณไม่เกินจำนวนนี้

IBKR Lite เป็นแผนที่เหมาะที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่ เพราะแพลตฟอร์มนี้สามารถใช้งานได้ง่าย

สกุลเงินในบัญชี

โชคดีมากที่ Interactive Brokers รองรับสกุลเงินหลักจำนวนมาก ซึ่งมันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการแปลงสกุลเงินเวลาที่คุณต้องการทำการฝากและถอนเงิน โดยสกุลเงินที่คุณสามารถเลือกใช้ได้มีดังต่อไปนี้:

• AUD
• GBP
• CAD 
• CYN
• EUR
• USD
• CZK
• DKK
• HUF
• INR
• ISL
• YEN
• MXN
• NOK
• RUB
• SGD
• ZAR
• SEK
• CHF

บางประเทศอาจไม่สามารถใช้สกุลเงินหลักของตัวเองได้ เช่น รูปีจองอินเดีย (INR)

เลเวอเรจ

เลเวอเรจที่ Interactive Brokers ให้บริการนั้นค่อนข้างหลากหลาย โดยมันจะขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชีที่คุณเลือกใช้และประเทศที่คุณอาศัยอยู่ ทางโบรกเกอร์ให้บริการเลเวอเรจที่ถูกกำหนดขึ้นตาม Regulation T (Reg T) สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนดให้เทรดเดอร์ต้องมีมาร์จินเริ่มต้นสูงถึง 50% ค่านี้อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของตราสารต่างๆ นอกจากนี้ต้องมีมาร์จินอย่างน้อยอยู่ที่ 25% ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องมีเงินทุนไม่ต่ำกว่า 25% ของปริมาณหลักทรัพย์ที่คุณเทรด

เทรดเดอร์มืออาชีพจะต้องใช้มาร์จินที่สูงขึ้นโดยต้องมียอดเงินขั้นต่ำอยู่ที่ $100,000(~฿3,000,000) และสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:200

การเปิดบัญชีจริงกับ IB  

การเปิดบัญชีเทรดกับ IB สามารถทำได้ผ่านทั้งเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ซึ่งใช้เวลาในดำเนินการไม่นาน นอกจากนี้ IB ยังให้บริการบัญชีทดลองสำหรับลูกค้าเพื่อให้ทดลองเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงด้วย

การเปิดบัญชีจริงผ่านแอพพลิเคชั่น

การเปิดบัญชีทดลอง

การฝากและการถอนเงิน

ทางโบรกเกอร์มีช่องทางในการฝากเงินเข้าบัญชีไม่มากนัก   อีกทั้งยังไม่รองรับช่องทากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และบัตรเครดิตด้วย ซึ่งช่องทางพวกนี้ถือเป็นช่องทางที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมเกิดได้เร็วขึ้น

คุณสามารถโอนเงินเข้าบัญชีผ่านช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารหรือเช็คเป็นหลักเท่านั้น แต่อาจจะมีช่องทางการฝากเงินอื่นๆ อีกสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา

IB จะไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากเงิน แต่จะมีค่าธรรมเนียมสำหรับการถอนเงิน ยกเว้นการถอนครั้งแรกของเดือนเท่านั้น  ค่าธรรมเนียมการถอนอยู่ที่ $8(~฿240) สำหรับบัญชีในสกุลเงินนี้

คุณแทบจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเลยในตอนที่ฝากเงินเข้ามาในบัญชี เพราะว่ามีสกุลเงินหลักมากมายให้คุณได้เลือกใช้งานกัน แต่มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คุณควรจะทราบไว้ก็คือจะมีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเกิดขึ้นเมื่อคุณซื้อขายสินทรัพย์ในสกุลเงินอื่น ตัวอย่างเช่น หากสกุลเงินหลักของบัญชีของคุณคือดอลลาร์สหรัฐ และคุณซื้อหุ้นในยุโรปที่มีสกุลเงินยูโร ในกรณีเช่นนี้จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเกิดขึ้น

ค่าธรรมเนียม

IB ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชั่นไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์หลายๆ แห่งในตลาด

ลูกค้าที่ใช้บริการในแผน IBKR Lite จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นในสหรัฐฯและ ETF เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น แต่จะยังคงมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเทรดอยู่ เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้ข้อมูลบางอย่าง ค่าใช้จ่ายสำหรับการโอน

นอกจากนี้ลูกค้าที่ใช้ IBKR Lite ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพหรือมือใหม่ก็ตาม พวกคุณไม่จำเป็นต้องรักษายอดเงินขั้นต่ำในบัญชีเลย และยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชีด้วย แต่ข้อเสนอที่ว่ามานี้มีให้สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

สำหรับแผน IBKR Pro ถือเป็นบริการแบบดั้งเดิมของทางโบรกเกอร์อยู่แล้ว ถือเป็นแผนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในเรื่องของค่าธรรมเนียมทั้งการเทรดในหุ้นและอนุพันธ์  ตัวอย่างเช่นในหุ้นของสหรัฐอเมริกา ทางโบรกเกอร์จะเรียกเก็บเงินเพียง $0.005(~฿0.15) ต่อหุ้นโดยมีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำที่ $1(~฿30) และสำหรับ ETF ของยุโรปจะมีค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.1% ของขนาดของออเดอร์โดยมีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำที่ $4(~฿120)

นักลงทุนที่ซื้อขายในปริมาณมากยังจะได้รับส่วนลดด้วย โดยจะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์แต่ละชนิด ตัวอย่างเช่นเทรดเดอร์ที่ซื้อขายมากกว่า 300,000 หุ้นต่อเดือนจ่ายเพียง $ 0.002(~฿0.06) ต่อหุ้นสำหรับหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา

ตลาด	ราคา	ต่ำสุด	สูงสุด
อเมริกาเหนือ
สหรัฐอเมริกา	$0.005(~฿0.15)/หุ้น	$1(~฿30)	ขนาด 1%
แคนาดา	0.01 CAD(~฿0.23)/หุ้น	CAD 1(~฿23)	ขนาด 0.5%
เม็กซิโก	ขนาด 0.1%	MXN 60(~฿90)	ไม่มี
ยุโรป
สหราชอาณาจักร	£6(~฿242)	£6(~฿240)	£6(~฿240)
เบลเยียม, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์	ขนาด 0.1%	€4(~฿140)	€29(~฿1,060)
สวิตเซอร์แลนด์	ขนาด 0.1%	CHF 10(~฿340)	ไม่มี
สเปน	ขนาด 0.1%	€4(~฿140)	ไม่มี
ออสเตรีย	ขนาด 0.1%	€4(~฿140)	€120(~฿4,400)
โปแลนด์	ขนาด 0.1%	PLN 15(~฿120)	ไม่มี
นอร์เวย์, สวีเดน	ขนาด 0.05%	49 NOK / SEK(~฿170/~฿180)	ไม่มี
โปรตุเกส	ขนาด 0.15%	€6(~฿220)	ไม่มี
เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย	ขนาด 0.2%	€10(~฿370)	ไม่มี
ฮังการี	ขนาด 0.1%	HUF 200(~฿20)	ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ออสเตรเลีย	ขนาด 0.08%	AUD 6 (~฿140)	ไม่มี
ฮ่องกง	ขนาด 0.08%	HKD 18 (~฿70)	ไม่มี
ญี่ปุ่น	ขนาด 0.08%	JPY 80 (~฿23)	ไม่มี
สิงคโปร์	ขนาด 0.08%	SGD 2.5 (~฿60)	ไม่มี
อินเดีย	ขนาด 0.01%	INR 6 (~฿3)	20 INR(~฿8)

เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม 

Trader Workstation เป็นแพลตฟอร์มหลักของ IB ที่ออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์ที่เป็นมืออาชีพโดยเฉพาะ ส่วน Customer Portal จะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่มากกว่า

Trader Workstation

Trader Workstation (TWS) จะช่วยคุณได้เป็นอย่างดีหากคุณกำลังหาเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่นำไปใช้เพื่อทำการวิจัยขั้นสูง นอกจากนี้มันยังช่วยพัฒนากลยุทธ์การเทรดให้กับคุณด้วย

Trader Workstation เป็นหนึ่งในเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ มันทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีฟีเจอร์มาตรฐาน เช่น การติดตามตลาดแบบเรียลไทม์ การแจ้งเตือนราคา รายการโปรดและแดชบอร์ดที่คุณสามารถปรับแต่งได้เอง

ฟีเจอร์มากมายนี้จะช่วยให้คุณสร้างและส่งออเดอร์ทั้งแบบธรรมดาไปจนถึงออเดอร์แบบที่มีความซับซ้อนได้ และคุณยังสามารถเปรียบเทียบการทำงานของกลยุทธ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ช่วยวัดความผันผวนจำนวนมากอยู่ในแพ็คเกจ “Volatility Lab” ด้วย

สำหรับนักวิเคราะห์ทางเทคนิค TWS มีชาร์ทที่มีความแอดวานซ์ที่มาพร้อมกับเครื่องมือวาดกราฟด้วย Chart Trader จะช่วยคุณให้คุณสามารถส่งออเดอร์ได้โดยตรงผ่านชาร์ทเลย ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับ Day trader 

แอพพลิเคชันบนมือถือ

โบรกเกอร์ได้พัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือของตัวเองขึ้นมาซึ่งมีพร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าทุกคน แอพพลิเคชันนี้ยังมีปุ่ม Shortcut มากมายในการเข้าใช้งานบนฟังก์ชัน และยังมีเครื่องมือสำหรับการส่งออเดอร์และชาร์ทที่มาพร้อมด้วยตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคและเครื่องมือเพื่อวิจัยอื่นๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้โปรแกรมคัดกรองต่างๆ ได้มากมาย มันจะช่วยหาโอกาสในการเข้าเทรดที่น่าสนใจ

Client Portal

แต่ก่อนทาง Interactive Brokers จะให้ความสำคัญกับเทรดเดอร์มืออาชีพเป็นส่วนใหญ่ แต่ในตอนนี้ทางโบรกเกอร์ได้เปิดตัว Client portal ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่เพราะมีการใช้งานที่ง่าย คุณสามารถใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้ผ่านออนไลน์ เลย ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือตั้งค่าอะไรให้ที่มีความซับซ้อนเลย

เราชอบแถบค้นหาที่มีอยู่ใน Client portal เครื่องมือนี้จะช่วยคุณค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็วขึ้น เพียงแค่คุณพิมพ์ชื่อบริษัทลงไป จากนั้นมันจะแนะนำสิ่งที่คุณสนใจไปให้เอง 

แพลตฟอร์มนี้มีคำสั่งซื้อหลักอยู่ 2 ประเภท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นเลยในตลาดและคำสั่งซื้อที่รอการตัดบัญชี แพลตฟอร์มนี้ยังมีอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบครันเพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการเทรดของคุณและดาวน์โหลดออกเป็นรายงานโดยละเอียดได้

ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ

IB มีตราสารทางการเงินมากมาย เช่น คู่สกุลเงิน, หุ้น, ETF, ฟิวเจอร์ส, CFD และออปชั่น คุณสามารถเทรดตราสารทั้งหมดนี้ได้เนื่องจากมีตลาดที่ทำการแลกเปลี่ยนตราสารพวกนี้อยู่มากกว่า 130 แห่งทั่วโลก

ตราสารที่ทางโบรกเกอร์ให้บริการมากที่สุดจะอยู่ในหุ้นและ ETF รวมทั้งมีตลาดที่เป็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วย เช่น NYSE และ LSE และยังมีหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นที่ถึงแม้จะไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ก็น่าสนใจ เช่น Warsaw

นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายพันธบัตร, กองทุนรวมในคู่สกุลเงินและ Cryptocurrency 

และยังมีตราสารอนุพันธ์เกือบทั้งหมด นี่ทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและพัฒนากลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ อีกทั้งยังมีตราสารที่เป็นฟิวเจอร์ส, ออปชั่นและ CFD ด้วย

การซื้อหุ้นไม่เต็มจำนวน

IB ทำให้คุณสามารถซื้อหุ้นของบริษัทในบางส่วนได้ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาเต็มเลย สิ่งนี้เป็นการช่วยให้นักลงทุนอย่างเราๆ สามารถลงทุนในบริษัทที่หุ้นมีราคาแพงได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนด้วย แทนที่คุณจะต้องจ่ายเงินกว่า $1,000(~฿30,000) สำหรับการซื้อหุ้น Google คุณสามารถซื้อเพียงเศษเสี้ยวของหุ้นก็ได้

การค้นคว้า

แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้คุณทำการวิเคราะห์ตลาดได้ นอกจากนี้ยังมีที่ปรึกษาที่จะคอยช่วยเหลือคุณอยู่ด้วย

เครื่องมือวิจัยหลักของ IB คือแพลตฟอร์ม Trader Workstation ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายสำหรับนักลงทุนรายย่อยและระดับสถาบัน นักเทรดมืออาชีพส่วนใหญ่จะชื่นชอบแพลตฟอร์มนี้ แต่ถ้าเป็นสำหรับมือใหม่อาจจะดูค่อนข้างยากสักหน่อย

เทรดเดอร์สามารถเปิดดูชาร์ทต่างๆ ได้หลายหน้าพร้อมๆ กันและใช้ตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคและเครื่องมือวาดกราฟต่างๆ ในการทำการวิเคราะห์

นอกจากนี้ TWS ยังมีโปรแกรมคัดกรองแบบขั้นสูงซึ่งจะช่วยระบุค่าทางเทคนิคแบบอัตโนมัติและมันยังแจ้งเตือนถึงโอกาสในการเข้าเทรดใหม่ๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังมีหน้าฟีดข่าวการเงินและข่าวเศรษฐกิจบน TWS ด้วย ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจากแหล่งข่าวที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น Zacks, Reuters และ Dow Jones คุณสามารถปรับเปลี่ยนหน้าฟีดข่าวได้ตามความต้องการ คุณจะได้รับข้อมูลที่คุณสนใจทั้งหมดนี้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว

PortfolioAnalyst 

คุณสามารถทำการจัดการบัญชีและตรวจสอบประสิทธิภาพการลงทุนของคุณเองได้ผ่าน PortfolioAnalyst เพราะนี้เป็นบริการที่ทาง IB ให้บริการแก่ลูกค้าทั้งหลาย

การค้นหาขั้นพื้นฐาน

Interactive Brokers เปิดตัวเครื่องมือนี้ในปลายปี 2019 โดยเป็นฟีเจอร์บน Client portal มันได้รับการออกแบบมาเพื่อนักลงทุนทั่วไปที่สามารถทำการวิจัยเชิงพื้นฐานในหุ้นได้แล้ว เป็นเครื่องมือที่มีความโดดเด่นที่คุณสามารถใช้งานบนมือถือได้ แต่ในส่วนของ Fundamentals Explorer นี้กำลังอยู่ในขั้นของการพัฒนาและคาดว่าจะสามารถนำไปใช้งานรวมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น ETFs ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

IBot

IBot มีพร้อมให้ใช้งานบน TWS และมือถือ มันเป็นแชทบอทที่สามารถสั่งออเดอร์ให้คุณได้ มีการนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาช่วยในการตอบคำถามต่างๆ ของลูกค้า ซึ่งมันสามารถช่วยลูกค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านการแชทที่เป็นเสียงด้วย

คุณสามารถถามข้อมูลต่างๆ จากแชทบอทได้เลย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนของคุณ คำสั่งซื้อที่รอดำเนินการและราคาหุ้น ตัวอย่างเช่นคุณสามารถสอบถามเกี่ยวกับ “ราคา LVMH ล่าสุด”, “ชาร์ท Microsoft”, “ซื้อหุ้น GOOG 2 ตัว ” ฯลฯ

ฝ่ายบริการดูแลลูกค้า

คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์, อีเมล, แชทออนไลน์หรือผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook, Twitter และ LinkedIn ก็ได้

หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการบริการของทางโบรกเกอร์ คุณสามารถหาข้อมูลพวกนี้ได้จาก FAQ section บนเว็บไซต์  แต่ถ้ามันยังช่วยคุณไม่ได้ คุณก็สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทสด, อีเมลหรือโทรศัพท์ไปก็ได้ ทางโบรกเกอร์รองรับภาษาต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้า แต่น่าเสียดายสำหรับชาวไทย เพราะทางโบรกเกอร์ไม่ได้รองรับการบริการเป็นภาษาไทย อย่างไรก็ตามคุณอาจจะสื่อสารกับฝ่ายบริการโดยใช้ภาษาจีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้นก็ได้

จากที่เราได้ลองทดสอบการให้บริการของทางโบรกเกอร์นี้ เราพบว่าช่องทางโทรศัพท์นั้นให้บริการได้เร็วที่สุดโดยที่เราใช้เวลารอเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามความเร็วในการติดต่ออาจจะช้าหรือเร็วต่างกันไปตามสำนักงานที่คุณเลือกใช้บริการด้วย

เราสามารถติดต่อตัวแทนผ่านช่องทางการแชทได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 นาทีและได้รับอีเมลตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง

การฝึกฝน

IB มีช่องทางการให้ความรู้แก่ลูกค้าผ่าน Trader Academy โดยมีความรู้ที่เป็นบทความ, วิดีโอสอนและการสัมมนาผ่านเว็บ

Traders Academy ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มสำรวจโลกแห่งการเงินโดยเฉพาะการซื้อขายผ่านออนไลน์ มือใหม่จะพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายเกี่ยวกับตราสารต่างๆ รวมถึงวิธีการซื้อขายด้วย

นอกจากนี้ยังมีวิดีโอสอนการใช้งานจริงบนแพลตฟอร์ม TWS และ Client portal โดยเริ่มจากการสำรวจบนแพลตฟอร์มและยังมีวิธีการสั่งออเดอร์ และอื่นๆ อีกมาก 

เมื่อคุณอยากจะเข้าไปสัมมนา คุณก็สามารถติดตามผู้เชี่ยวชาญของทางโบรกเกอร์ที่จะเป็นโฮสต์สำหรับการสัมมนาทางเว็บเอง ข้อมูลและการสัมมนาทั้งหมดนี้จะเป็นข่าวสารที่เกิดขึ้นในช่วงของสัปดาห์นั้นๆ โดยเนื้อหาจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลย

ความปลอดภัย

บริษัทในเครือทั้ง 9 แห่งของโบรกเกอร์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาด 9 แห่ง ดังนั้น IB จึงถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในอุตสาหกรรม

กฎหมาย

IBG LLC เป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ Interactive Brokers  โดยมีบริษัทในเครืออยู่ 9 แห่งที่ดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง, แคนาดา, อินเดีย, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, ลักเซมเบิร์ก, สิงคโปร์และออสเตรเลีย บริษัทในเครือแต่ละแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการจากหน่วยงานกำกับดูแลในพื้นที่นั้นๆ 

หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเหล่านี้ ได้แก่ Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร Financial Industry Regulatory Authority (FINRA) ในสหรัฐอเมริกาและ Investment Industry Regulatory Organization of Canada (IIROC) ในแคนาดา ลูกค้าในยุโรปและอเมริกาจะได้รับประโยชน์จากการประกันเงินฝากซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตราสารแต่ละประเภทด้วย โดยเงินประกันมีเริ่มต้นตั้งแต่ £85,000(~฿3,400,000) การประกันเงินฝากนี้จะช่วยปกป้องเงินของคุณในกรณีที่โบรกเกอร์เกิดล้มละลาย

การป้องกันเงินทุน

ในกรณีที่โบรกเกอร์เกิดล้มละลาย ลูกค้าบางรายจะได้รับค่าตอบแทนชดเชย โดยรายละเอียดเงินประกันมีดังต่อไปนี้

พื้นที่	จำนวนเงินประกัน	หน่วยงานกำกับดูแล
ยุโรป	£85,000(~฿3,400,000)	Financial Market Supervisory Authority (FCA)
สหรัฐอเมริกา	$500,000(~฿15,000,000)	Financial Sector Regulatory Authority (FINRA)
แคนาดา	CAD 1,000,000(~฿23,300,000)	Canadian Investor Protection Fund (FCPE); Investment Industry Regulatory Organization of Canada (IIROC)
ออสเตรเลีย	ไม่มี	Australian Securities and Investments Commission (ASIC)Securities and Exchange
อินเดีย	ไม่มี	Commission of India (ESB)
ญี่ปุ่น	ไม่มี	Financial Services Agency (FSA)
ฮ่องกง	ไม่มี	Securities and Futures Commission (SFC)

ประเทศที่ให้บริการ

โชคดีมากที่ทางโบรกเกอร์มีบริษัทในเครือที่คอยให้บริการลูกค้าในเกือบทุกทวีปทั่วโลก นี่จึงทำให้ลูกค้าที่ไม่ว่าจะอยู่ในทวีปใดก็ตามสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้บริการกับทางโบรกเกอร์ได้ ที่จริงแล้ว IB เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์เพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีกฎระเบียบที่มีความเข้มงวดมากที่สุด แต่ก็มีเพียงบางประเทศที่ทางโบรกเกอร์ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่ไม่มั่นคง เช่น เกาหลีเหนือและโซมาเลีย

สรุป – Interactive Brokers รีวิว

Interactive Brokers ถือเป็นผู้นำใดหลายๆ ด้านสำหรับการให้บริการการเทรดสินทรัพย์ออนไลน์ โบรกเกอร์มีประสบการณ์ในวงการนี้มามากกว่า 40 ปีและได้ปฏิบัติทำตามกฎระเบียบที่มีความเข้มงวด คุณจะได้เทรดในตลาดต่างๆ มากมายและยังได้ประโยชน์ในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ถือว่าต่ำมาก นอกจากนี้แพลตฟอร์ม TWS ยังถือเป็นแอดวานซ์เทคโนโลยีที่รวบรวมฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากมายสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน

คำถามที่พบบ่อย