รีวิว IC Markets 2024 – ข้อดีและข้อเสีย

สารบัญเนื้อหา คลิกเพื่ออ่านในหัวข้อต่างๆ

สรุปภาพรวม – IC Markets ดีไหม

สรุป IC Markets

💰 เงินฝากขั้นต่ำ$200 (~฿6,660)
📈 เลเวอเรจสูงสุด1:500  
🖥️ เทรดดิ้งแพลตฟอร์มMT4, MT5 และ cTrader
🏦 หน่วยงานกำกับดูแลASIC, CySEC และ FSA 
💳 การฝากและการถอนเงินโอนเงินธนาคาร, บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, โอนผ่านโบรกเกอร์อื่น, PayPal, Neteller, Skrill, UnionPay, Bpay, Klarna, FasaPay, POLI, Rapidpay และ Bitcoin 
👍ข้อดี
  • ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นการเทรด CFD ต่ำ
  • มีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มให้บริการมากมาย
👎ข้อเสีย
  • มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดน้อย
  • ไม่สามารถเทรดหุ้นจริงและ ETF ได้
โบรกเกอร์นี้เหมาะกับใคร

IC Markets เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะกับเทรดเดอร์หลายประเภทมือใหม่ ด้วยเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่มีหลากหลาย ใช้งานง่าย และแหล่งความรู้มากมาย

IC Markets คือโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการการเทรดฟอเร็กซ์และ CFD ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โบรกเกอร์อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยหน่วยงาน ASIC ของออสเตรเลีย, CySEC ในยุโรปและ FSA ในเซเชลส์ 

โบรกเกอร์ IC Markets มีสินทรัพย์สำหรับออนไลน์เทรดดิ้งที่หลากหลาย เช่น คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์, CFD, พันธบัตร, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, Cryptocurrency เป็นต้น โดยค่าธรรมเนียมการเทรดของ IC Markets ถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย และมีค่าสเปรดแคบเริ่มต้นที่ 0 pip เทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่ให้บริการลูกค้า ได้แก่ MT4, MT5 และ cTrader ซึ่งมีฟีเจอร์การเทรดมากมาย สามารถใช้ได้ทั้งบนเดสก์ท็อป, เว็บเทรดเดอร์ และแอพพลิเคชั่นมือถือ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสนับสนุนการเทรดมากมายและฝ่ายบริการลูกค้าที่รองรับภาษาไทยด้วย 

การเปิดบัญชี

คุณสามารถใช้บริการกับทางโบรกเกอร์ได้ด้วยการฝากเงินเพียง $200(~฿6,000) โดยมีบัญชีมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ Standard, RAW MT4/MT5 และ RAW cTrader

IC Markets การเปิดบัญชี

บัญชี Raw Spread หรือบัญชี True ECN 

บัญชี Raw Spread เป็นบัญชีที่มีความน่าสนใจมากที่สุดโดย ECN สเปรดบนแพลตฟอร์ม Metatrader 4 และ Metatrader 5 จากการทดลองเราพบว่าค่าสเปรดในบัญชีนี้มีค่าต่ำที่สุดในตลาดที่มีการเทรด Forex โดยอย่างค่าสเปรดสำหรับ EUR/USD จะเริ่มตั้งแต่ 0 pip ดังนั้นบัญชีนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Scalping

เหล่าเทรดเดอร์ระยะสั้นจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานบัญชีประเภทนี้ เพราะมันทำให้ต้นทุนในการเทรดน้อยลง แต่โบรกเกอร์ก็จะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นตามขนาดของออเดอร์เทรด

IC Markets ได้กล่าวถึงไฟเบอร์ออปติกบนเว็บไซต์ว่ามันช่วยให้การทำธุรกรรมในบัญชี Raw Spread สามารถทำได้ในเวลาน้อยกว่า 40 วินาที

บัญชี cTrader 

บัญชีนี้คล้ายกับบัญชี Raw Spread แต่มีข้อแตกต่างเล็กน้อย คือมันมีไว้สำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบ cTrader มากกว่า Metatrader ในบัญชีนี้จะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นเช่นกัน แต่น้อยกว่าของ Metatrader เล็กน้อย

บัญชี cTrader เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการใช้งานเครื่องมืออื่นๆ เพิ่มเติม และต้องขอบคุณผู้ให้บริการด้านสภาพคล่องมากกว่า 50 รายที่ทำให้ค่าสเปรดของ IC Markets ค่อนข้างแคบในช่วงเวลาตลาดของยุโรปและอเมริกาเหนือ

IC Markets ได้กล่าวไว้บนเว็บไซต์ว่าในบัญชีนี้มีระยะเวลาแฝงหรือ Latency time อยู่ที่หนึ่งวินาทีในหนึ่งเดือน ดังนั้นบัญชีนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Scalping

บัญชี Standard 

บัญชีนี้จะไม่เหมือนกับบัญชี Raw Spread และ cTrader เพราะว่าจะไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ค่าสเปรดจะกว้างขึ้น 1 pip  วิธีการถอนในบัญชีนี้ทำได้ง่ายมากและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

บัญชี Swap Free 

บัญชีนี้ไม่เหมือนบัญชีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บัญชีนี้ทำขึ้นมาเพื่อลูกค้าที่นับถือศาสนาอิสลามที่ไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียม (ดอกเบี้ย) ได้  บัญชีนี้สามารถใช้ได้กับบัญชีทุกประเภท (Standard และ RAW) และมีค่าสเปรดและคอมมิชชั่นเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างตรงที่จะไม่มีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนหรือค่าธรรมเนียมที่ถือออเดอร์ข้ามคืน

บัญชีทดลอง 

ผู้ใช้งานบัญชีทุกประเภทสามารถใช้งานบัญชีทดลองได้ คุณสามารถเลือกประเภทบัญชีและแพลตฟอร์มที่คุณต้องการแล้วลองเทรดได้โดยไม่มีความเสี่ยงเลยแม้แต่น้อย คุณสามารถใช้งานบัญชีทดลองนี้ได้แบบไม่จำกัดเลย ดังนั้นคุณจึงสามารถทดสอบวิธีการเทรดใหม่ๆ รวมถึงการเทรดด้วยหุ่นยนต์ด้วย

ยืนยันตัวตนแบะความเสี่ยง

เมื่อพูดถึงการเทรดออนไลน์ IC Markets ให้ความสำคัญกับ Know Your Customer (KYC) รวมถึงการตรวจสอบตัวตนของลูกค้าเป็นอย่างมาก เนื่องจาก IC Markets อยู่ภายใต้การควบคุมจากหน่วยงานจึงทำให้ต้องมีการทดสอบและสอบถามลูกค้าใหม่ทุกคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจถึงความเสี่ยงจากการเทรดเป็นอย่างดีแล้ว

เมื่อเปิดบัญชีขึ้นมา คุณจะถูกถามคำถามหลายชุดมาก และหากคำตอบส่วนใหญ่นั้นผิด โบรกเกอร์จะขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ให้คุณเปิดบัญชี จากนั้นโบรกเกอร์ก็จะนำคุณไปยังแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆ บนเว็บไซต์

หากคุณยังเป็นมือใหม่ เราจะขอแนะนำให้คุณศึกษาจาก page บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ก่อนที่คุณจะเปิดบัญชีจริง

คุณจะต้องส่งรูปถ่ายของเอกสารดังต่อไปนี้ในการยืนยันตัวตน:

  • หน้าหนังสือเดินทาง, ใบขับขี่หรือบัตรประชาชน 
  • ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ หรือหน้า Bank statement ที่มีที่อยู่อาศัยของคุณกำกับอยู่ และจะต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน

โดยปกติบัญชีของคุณจะได้รับการยืนยันภายใน 24 ชั่วโมงจากนั้นคุณก็จะสามารถฝากเงินได้

เลเวอเรจ 

คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงถึง 1:500 การใช้เลเวอเรจช่วยให้คุณมีเงินทุนในการเทรดมากขึ้น 

การใช้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มผลกำไรให้สูงขึ้น แต่อย่าลืมนะว่ามันก็ทำให้คุณขาดทุนมากเกินกว่าเงินทุนที่แท้จริงของคุณด้วยเช่นกัน IC Markets จะไม่มีการป้องกันยอดคงเหลือติดลบในประเทศที่อยู่นอกยุโรป 

การฝากและการถอนเงิน

คุณสามารถฝากเงินได้ผ่านหลายช่องทาง: บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต, Wire transfer, e-wallets และ Bitcoin

IC Markets การฝากและการถอนเงิน

การฝากเงิน

IC Markets ต้องการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าด้วยการมีบริการฝากเงินผ่านหลายช่องทาง มีช่องทางฝากเงินดังต่อไปนี้:

  • บัตรเครดิต/บัตรเดบิต
  • โอนเงินผ่านธนาคาร
  • ธนาคารออนไลน์ของไทย
  • โอนผ่านโบรกเกอร์อื่น
  • PayPal
  • Neteller
  • Skrill
  • UnionPay
  • Bpay
  • FasaPay
  • POLI
  • Rapidpay
  • Klarna
  • Bitcoin 

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย ทางโบรกเกอร์เองก็มีบริการการโอนเงินผ่าน Online Banking โดยมีเพียง 5 ธนาคารในประเทศที่ไทยคุณสามารถเลือกใช้บริการได้: 

  • ธนาคารกรุงเทพ
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารกรุงศรี

ช่องทางการฝากเงินส่วนใหญ่สามารถทำได้ในทันที การโอนเงินผ่านธนาคารจะเป็นวิธีที่ล่าช้ามากที่สุด ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุดนานถึง 5 วันกว่าเงินจะเข้าในบัญชีของคุณ

คุณสามารถใช้สกุลเงินหลักดังต่อไปนี้ได้: AUD, NZD, USD, JPY, EUR, HKD, CAD, CHF, GBP และ SGD การเลือกใช้สกุลเงินหลักในบัญชีให้เหมือนกับสกุลเงินเริ่มต้นที่คุณฝากเงินเข้าจะช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินในภายหลัง

การถอนเงิน

เวลาในการถอนจะแตกต่างกันไปตามช่องทางที่คุณเลือกใช้งาน คุณสามารถถอนเงินได้ในทันทีผ่าน PayPal, Neteller หรือ Skrill รวมถึงช่องทางอื่นๆ แต่หากคุณถอนผ่านบัตร คุณอาจจะต้องรอนานถึง 3-5 วันทำการ

คุณสามารถใช้งานบัญชีหรือบัตรที่เป็นชื่อของคุณได้เท่านั้น  ทาง IC Markets จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากหรือถอนใดๆ แต่ธนาคารหรือผู้ให้บริการอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากคุณ

เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม

เทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่มีให้บริการลูกค้า ได้แก่ Metatrader 4, Metatrader 5 และ cTrader โดย Metatrader จะเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ แต่ถ้าเทรดเดอร์คนไหนที่ต้องการใช้เครื่องมือที่ดียิ่งขึ้นไปอีกก็น่าจะเลือกใช้ cTrader

IC Markets เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม MT4

คุณสามารถดาวน์โหลดเทรดดิ้งแพลตฟอร์มได้จากหน้าแดชบอร์ด หรือ “สำหรับลูกค้า” นอกจากนี้ยังมีลิงค์สำหรับดาวน์โหลดแพลตฟอร์มบนมือถือต่างๆ ด้วย

MetaTrader 4 และ Metatrader 5 

การส่งคำสั่งต่างๆ บน MT4 และ MT5 นั้นทำได้ค่อนข้างเร็ว  และไม่มีข้อจำกัดในการส่งออเดอร์เทรดเลย ตัวอย่างออเดอร์เทรด เช่น การส่งคำสั่งซื้อหรือขายตามค่าสเปรดของตราสาร  เหล่า Scalping จะได้รับประโยชน์ในจุดนี้มากที่สุดเพราะพวกเขาเทรดได้ในราคาที่ถูกต้องตามที่ต้องการมากที่สุด

สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค บนแพลตฟอร์ม Metatrader มีตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคและเครื่องมือวาดกราฟต่างๆ มากมาย โดยที่มีตัวอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วย เช่น RSI, MACD และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving averages) นอกจากนี้ยังมีตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคในตลาดที่รวมอยู่ในแพลตฟอร์มด้วย

ข้อดีอีกประการหนึ่งของเทรดดิ้งซอฟต์แวร์นี้คือมีการใช้งานเทรดดิ้งโรบอท ซึ่งเป็นตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งสำหรับการเทรด Forex 

cTrader 

cTrader เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักเทรดมืออาชีพ แพลตฟอร์มนี้มีหน้าอินเทอร์เฟซที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่า MT4 แต่จะมีฟีเจอร์ที่เยอะมากขึ้น เช่น การเจาะลึกตลาด

การส่งคำสั่งต่างๆ บน cTrader นั้นทำได้เร็วมาก แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้คุณเทรดแบบ Scapling ได้ดียิ่งขึ้น คุณจะสามารถส่งออเดอร์ได้เยอะมากขึ้นและราคาก็ยังใกล้เคียงกับราคาในตลาดด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะช่วย Scalper ได้มากขึ้น เช่น Smart Stop Out เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยจำกัดการขาดทุน

IC Markets cTrader

บรรยากาศในการใช้งานบน cTrader จะดูดีมีความเป็นมืออาชีพมากเนื่องจากจะมีชาร์ทที่คุณสามารถเลื่อนดูได้ และยังมีหน่วยเวลาถึง 26 หน่วยและตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคในตัวมากกว่า 50 ตัว

แพลตฟอร์มต่างๆ บน cTrader ถูกซิงโครไนซ์เป็นอย่างดีเพื่อให้คุณสามารถดูประวัติการทำธุรกรรมได้เมื่อคุณอยากจะเปลี่ยนจากโหมดใช้คอมพิวเตอร์ไปเป็นมือถือแทนในบางครั้ง

แพลตฟอร์มบนมือถือ

Metatrader Mobile

คุณสามารถดาวน์โหลด Metatrader ในเวอร์ชันบนมือถือทั้งในระบบ iOS และ Android ได้ โดยคุณจะได้เทรดในราคาแบบเรียลไทม์ในตราสารที่เป็น Forex และ CFD ถึงแม้ว่าแอพพลิเคชันบนมือถือจะมีฟังก์ชันการทำงานน้อยกว่าบนคอมพิวเตอร์ แต่จะมีตัวอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคมากกว่า 30 ตัวอยู่ในนั้น

แอพพลิเคชันตัวนี้จะไม่สามารถทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเชิงลึกได้ แต่คุณสามารถเช็คออเดอร์เทรดของคุณได้ตลอดเวลา

cTrader Mobile

แอพพลิเคชันนี้ช่วยให้คุณสามารถเช็คบัญชีของคุณได้ตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แพลตฟอร์มนี้รองรับภาษาทั้งหมด 22 ภาษาซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์จำนวนมากทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานได้

cTrader mobile มีระบบคลาวด์ฟีเจอร์ซึ่งช่วยให้คุณได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบัญชีของคุณก็ตาม เช่น การแจ้งเตือนราคา, ธุรกรรมใหม่ ฯลฯ

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมของ ICM Markets ถือว่าไม่สูงมาก ซึ่งจะเหมาะสำหรับ Scalper และ Day trader

บัญชี Standard RAW(MT4 / MT5)RAW (cTrader)
ค่าสเปรดเริ่มตั้งแต่ 1.0 pipเริ่มตั้งแต่ 0.0 pipเริ่มตั้งแต่ 0.0 pip
ค่าคอมมิชชั่น$0$3.5(~฿105) ต่อล็อต$3(~฿90) ต่อล็อต
ค่าสว๊อปมีมีมี

IC Markets ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความได้เปรียบในเรื่องของค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นมากที่สุดที่หนึ่งในตลาด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Scalping บัญชีแต่ละประเภทจะมีต้นทุนในการเทรดที่แตกต่างกันไป

บัญชี CTrader และ Raw Spread

ค่าคอมมิชชั่นในบัญชี cTrader นั้นค่อนข้างจะต่ำกว่าบัญชี Raw Metatrader เล็กน้อย ค่าธรรมเนียมในบัญชี Raw Spread บน MT4 หรือ MT5 จะอยู่ที่ $3.5(~฿100) ต่อออเดอร์หนึ่งล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย) หรือ $7(~฿200) ต่อออเดอร์ แต่ถ้าเป็นบัญชี cTrader จะมีค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ $3(~฿90) และ $6(~฿180) ตามลำดับ โดยในบัญชี cTrader นี้จะเหมาะกับการเทรดแบบระยะสั้นมากกว่า

ค่าสเปรดค่อนข้างจะแคบในคู่สกุลเงินหลัก และในช่วงที่ตลาดเปิดทำการ เราพบว่า EUR/USD มีค่าสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.1 pip และจะมีค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.6 pip ในบัญชี cTrader ดังนั้นต้นทุนทั้งหมดจะเท่ากับ 0.7 pip (หรือ 0.8 บน Metatrader) มีเพียงโบรกเกอร์ไม่กี่รายเท่านั้นที่เสนอต้นทุนที่คุ้มค่าขนาดนี้ได้แก่เรา

นอกจากนี้ IC Markets ยังมอบส่วนลดเพิ่มเติมให้แก่เทรดเดอร์ที่ซื้อขายมากกว่า 100 ล็อตต่อเดือน

บัญชี Standard 

การเทรดในบัญชี Standard นี้จะไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่จะมีค่าสเปรดที่กว้างขึ้น อย่างค่าสเปรดของ EUR/USD เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 pip โดยทั่วไปแล้วค่าสเปรดในบัญชี Standard จะเท่ากับค่าสเปรดในบัญชี Raw Spread ที่บวกเพิ่มด้วย 1 pip

บัญชี Standard นี้ไม่เหมาะสำหรับ Scalping แต่จะเหมาะกับการซื้อขายระยะกลางและระยะยาวมากกว่า เพราะมันจะช่วยลดต้นทุนได้

ตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ

IC Markets กำลังขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น ตลาดต่างๆ ที่คุณสามารถเทรดได้ ได้แก่ คู่สกุลเงิน Forex, CFD สำหรับหุ้น, พันธบัตร, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์และ Cryptocurrency 

IC Markets ยังมีบริการตราสารที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในบรรดาตราสารทั้ง 6 ประเภทด้วย มันจะช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

คู่สกุลเงิน Forex 

มีคู่สกุลเงิน 60 คู่ซึ่งสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:500 Forex ถือเป็นตราสารที่ดีที่สุดของ IC Markets โดยมีค่าสเปรดที่แคบในคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับ Scalping

ดัชนี

ดัชนี CFD ถือว่าเป็นตราสารที่เป็นที่นิยมมากในบรรดาเทรดเดอร์ทั้งหลาย มันจะช่วยให้คุณสามารถกระจายการลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ จากการทำธุรกรรมเพียงครั้งเดียว IC Markets ให้บริการเทรดดัชนีทั้งหมด 17 ดัชนีจากทั่วโลก

สินค้าโภคภัณฑ์ 

มีสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปแบบของ CFD ทั้งหมด 19 รายการ

หุ้น

IC Markets ให้บริการ CFD ในหุ้นมากกว่า 120 หุ้น และแน่นอนว่าจะต้องมีหุ้นของบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกรวมอยู่ด้วย

พันธบัตร

มีพันธบัตรทั้งหมด 6 ชนิด โดยเฉพาะที่เป็นของอเมริกันและเยอรมัน

Cryptocurrencies

คุณสามารถเทรด Cryptocurrency ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดผ่าน CFD ได้

การค้นคว้า

บนแพลตฟอร์มของ Metatrader และ cTrader มีเครื่องมือที่จะช่วยคุณวิเคราะห์เชิงเทคนิค และ IC Markets ยังมีแพลตฟอร์มที่เป็นโซเชียลเทรดดิ้งด้วย มันเป็นที่ที่คุณสามารถหาแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างได้

IC Markets การค้นคว้า

การวิเคราะห์

บล็อกของ IC Markets จะได้รับการอัปเดตอยู่เป็นประจำ คุณสามารถติดตามข่าวสารในตลาดได้ โดยมีเนื้อหาอย่างเช่น ข่าวบริษัท, การวิเคราะห์เชิงพื้นฐาน, การวิเคราะห์เชิงเทคนิคและมีการเทรนด้วย

นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่บทความในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพรวมของตลาดและมุมมองเชิงทางเทคนิคและเชิงพื้นฐาน

เครื่องมือ

ในส่วนของเครื่องมือนี้ประกอบไปด้วยปฏิทินเศรษฐกิจและเครื่องคิดเลขต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ เช่น เครื่องมือคำนวณออเดอร์, เครื่องมือคำนวณมาร์จิ้น, เครื่องมือคำนวณกำไร/ขาดทุน เป็นต้น

เทรดเดอร์ Forex มักจะนิยมใช้งาน MT4 และ MT5 และข้อดีของแพลตฟอร์มพวกนี้ก็คือมีตัวอินดิเคเตอร์เชิงเทคนิคให้คุณได้ใช้งานกันฟรีมากมาย ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่ คุณยังสามารถหาใช้งานตัวอินดิเคเตอร์เชิงเทคนิคที่คุณสามารถกำหนดเองได้บนออนไลน์อีกมากมาย  นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งาน EAs ที่มีอยู่กว่าหลายร้อยรายการได้จากห้องสมุดของแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย

นอกจากนี้เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดแบบอัตโนมัติมักจะชอบใช้งาน cTrader เนื่องจากมีตัวอินดิเคเตอร์มากมายอยู่บนแพลตฟอร์ม และยังมี cAlgo ซอฟต์แวร์ซึ่งช่วยให้คุณพัฒนาเทรดดิ้งโรบอทได้ด้วย

โซเชียลเทรดดิ้ง

สำหรับเทรดเดอร์รายใหม่ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน ทาง IC Markets ได้มีบริการ MAM และ PAMM ซึ่งเป็นเหมือน Signal provider ที่สามารถช่วยในการเทรดของคุณได้ด้วยการแชร์ระบบเทรดดิ้งแบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้มันยังสามารถเชื่อมต่อบัญชี IC Markets ของคุณให้เข้ากับโซเชียลเทรดดิ้งแพลตฟอร์ม Myfxbook และ ZuluTrade ด้วย โซเชียลเทรดดิ้งนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์ตลาดในแต่ละวันด้วยตัวเอง

ฝ่ายบริการดูแลลูกค้า

ลูกค้าสามารถติดต่อ IC Markets ได้หลายช่องทาง เช่น แชทออนไลน์, อีเมล, โทรศัพท์ เป็นต้น

ฝ่ายบริการของ IC Markets มีให้บริการในหลายภาษา เช่น อังกฤษ, ฝรั่งเศส, จีน, อินโดนีเซีย, อิตาลี, สเปน, โปรตุเกส, เวียดนามและไทย

สำหรับลูกค้าชาวไทย ทางโบรกเกอร์ก็มีฝ่ายบริการ Live Chat ภาษาไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งมีเวลาทำการในวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลาประมาณ 07:00 – 22:00 น.

แต่ถ้าหากต้องการติดต่อ Live Chat ภาษาอังกฤษ ทางตัวแทนจะเปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

หากคุณมีปัญหาใดๆ ก็ตามทางโบรกเกอร์จะขอเชิญให้คุณเข้าไปปรึกษาที่ help center ก่อน แต่ถ้าหากคุณยังต้องการสนทนาเป็นการส่วนตัวกับทางตัวแทน คุณอาจจะต้องรอนานสักหน่อยในบางครั้งโดยเฉพาะในช่วงวันทำการ

อย่างไรก็ตามทางฝ่ายดูแลลูกค้ามีการทำงานเป็นมืออาชีพมาก พวกเขาตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและยังเชิญชวนให้เราเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมบนหน้าเว็บไซต์ด้วย

การฝึกฝน

IC Markets ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดที่ต้องการให้โบรกเกอร์มีแหล่งข้อมูลความรู้ให้แก่ผู้เริ่มต้น

IC Markets การฝึกฝน

IC Markets ได้จัดทำชุดวิดีโอสอนที่อธิบายวิธีการใช้ฟังก์ชันต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Metatrader และ cTrader ไว้อย่างชัดเจน

เว็บไซต์ของโบรกเกอร์มีส่วนที่เป็น “เว็บทีวี” ซึ่งจะมีการอัปเดตข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำซึ่งมันจะช่วยคุณในการตัดสินใจต่างๆ ได้

ความปลอดภัย

ASIC เป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลการทำงานของ IC Markets. 

ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่คุณจะต้องคำนึงถึงสำหรับการเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ถึงแม้ว่าเทรดดิ้งแพลตฟอร์มอาจมีความซับซ้อน ใช้งานยาก แต่ถ้าหากโบรกเกอร์ดำเนินกิจการต่างๆ โดยที่ไม่มีหน่วยงานเข้ามาควบคุม มันก็หมายความว่าไม่มีอะไรที่จะมาช่วยรับประกันว่าเงินของคุณจะปลอดภัยอยู่

IC Markets เป็นบริษัทในเครือของ International Capital Markets PTY Ltd. ในประเทศออสเตรเลียที่ได้รับการควบคุมโดย Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

ตั้งแต่ปี 2019 Raw Trading Ltd ซึ่งเป็นบริษัทระหว่างประเทศของ IC Markets ได้จดทะเบียนกับ Seychelles Financial Services Authority (FSA)

นอกจากนี้ IC Markets ยังได้รับการควบคุมดูแลในยุโรปโดย Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ใบอนุญาตที่ได้รับจากไซปรัสทำให้โบรกเกอร์สามารถให้บริการในประเทศแถบยุโรปได้

การแยกบัญชี

เงินของลูกค้านั้นจะถูกแยกออกและถูกเก็บไว้ในคนละบัญชีกับเงินกองทุนของ IC Markets นี่หมายความว่าโบรกเกอร์จะไม่สามารถใช้เงินฝากของลูกค้าในการพัฒนาธุรกิจของโบรกเกอร์เองได้ นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าแน่ใจว่าเงินฝากของพวกเขายังอยู่ปลอดภัยดีตลอด โบรกเกอร์จะต้องร่วมมือกับธนาคารที่มีชื่อเสียงหลายแห่งเพื่อทำการแยกบัญชีที่ว่านี้

IC Markets PTY ฝากเงินของลูกค้าไว้กับ National Australia Bank (NAB) และ Westpac Banking Corporation (Westpac) ในขณะที่ IC Markets Seychelles จะฝากเงินไว้กับ Barclays Bank Seychelles

การรับประกันเงินฝาก 

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในยุโรปจะเข้าร่วมในกองทุนหักบัญชี (Clearing fund) จึงเป็นการรับประกันเรื่องความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าได้ แต่ว่าภายใต้ข้อบังคับ ASIC และ FSA ในปัจจุบันจะไม่มีโครงการเงินชดเชยสำหรับนักลงทุนที่ไม่ใช่ชาวยุโรปในกรณีที่บริษัทล้มละลาย

บริษัทในเครือในยุโรปของ IC Markets (IC Markets EU Ltd) ยังคงให้ความคุ้มครองยอดคงเหลือติดลบและมีเงินประกันสูงถึง €20,000(~฿740,000) ตามกองทุน ICF ที่ CySEC จัดตั้งขึ้น

สรุป – IC Markets รีวิว

IC Markets ถือเป็นโบรกเกอร์ที่ปลอดภัย โดยมีเทรดดิ้งแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ ตราสารต่างๆ บนแพลตฟอร์มจะช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีมาก

สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาเทรดด้วยตัวเอง การใช้โซเชียลเทรดดิ้งจะช่วยพวกเขาได้

คำถามที่พบบ่อย

จะปลอดภัยไหมถ้าจะใช้บริการกับ IC Markets 

แน่นอน IC Markets ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียและได้รับใบอนุญาตจาก ASIC อีกทั้งยังมีบริษัทในเครือที่ไซปรัสซึ่งได้รับใบอนุญาตและถูกควบคุมโดย CySEC

มีช่องทางการฝากเงินทางไหนบ้าง

คุณสามารถฝากเงินผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, โอนเงินผ่านธนาคาร, PayPal, Neteller, Skrill และ UnionPay และยังมีช่องทางอื่นๆ อีกซึ่งขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอาศัยอยู่

ต้องใช้เงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่

$200(~฿6,000)

สามารถเทรด Bitcoin ได้หรือไม่

คุณสามารถเทรด Cryptocurrency ต่างๆ ได้ในรูปแบบ CFD

Trading.in.th
Logo
Enable registration in settings - general